สเปรย์พ่นจมูก HXP-GPOVac ChulaCov19 นวัตกรรมสู้โควิดฝีมือคนไทย คาดให้บริการปีหน้า
สุดยอด! 3 นวัตกรรมป้องกันโรคโควิด ฝีมือคนไทย "สเปรย์พ่นจมูก HXP-GPOVac และ ChulaCov19" คืบหน้า ย้ำไทยเป็นประเทศที่มีระบบสาธารณสุขเข้มแข็ง
วันนี้ (20 มิ.ย.65) ศูนย์ข้อมูล COVID-19 แจ้งว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชื่นชมความสำเร็จของนวัตกรรม “สเปรย์แอนติบอดีพ่นจมูก” ที่มีคุณสมบัติยับยั้งเชื้อโควิด-19 ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของหน่วยงานไทย
คือ องค์การเภสัชกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) และบริษัทไฮไบโอไซ จำกัด คาดสามารถผลิตออกสู่ตลาดได้ในไตรมาส 3 ของปีนี้
นอกจากนี้ วัคซีน HXP-GPOVac ขององค์การเภสัชกรรม ได้ผ่านการทดลองในมนุษย์ทั้งเฟส 1 และเฟส 2 ผลการทดลองพบว่า สามารถป้องกันโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนได้ และอยู่ระหว่างขอขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
โดยมีแผนจะนำวัคซีนดังกล่าว กลับไปทำการทดลองเฟส 2 อีกครั้งในช่วงเดือน ส.ค. 65 เมื่อสำเร็จและได้ผลดี จะดำเนินการทดลองเฟส 3 ต่อไป คาดว่าจะเริ่มฉีดให้ประชาชนได้กลางปี 66
ส่วนวัคซีน ChulaCov19 ของศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผลทดสอบพบว่า มีประสิทธิภาพสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดีเทียบเท่ากับวัคซีนไฟเซอร์และโมเดอร์นา ขณะนี้อยู่ระหว่างการผลิตวัคซีนในโรงงานไทย และรอทดลองในคนระยะ 3 คาดสามารถขึ้นทะเบียนกับ อย. เพื่อใช้ในภาวะฉุกเฉินได้ภายในสิ้นปี
ความคืบหน้าของการพัฒนานวัตกรรมดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของคนไทย และรัฐบาลพร้อมส่งเสริมให้เกิดความมั่นคงในระบบสุขภาพของประเทศ ซึ่งเป็นทางเลือกหนึ่งในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 เเม้ขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงเตรียมการเปลี่ยนไปสู่โรคประจำถิ่น แต่การพัฒนาวัคซีนใช้เองในประเทศยังเป็นสิ่งจำเป็น.
ข้อมูลและภาพจาก องค์การเภสัชกรรม ศูนย์ข้อมูล COVID-19