เปิดข้อควรรู้-ผลข้างเคียง ฉบับผู้ปกครอง ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในเด็ก 5-11 ปี ก.พ.นี้
เปิดข้อควรรู้-ผลข้างเคียง ฉบับผู้ปกครอง เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในเด็ก 5-11 ปี ก.พ.นี้
รัฐบาลเตรียมพร้อมการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับเด็กอายุ 5-11 ปี ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขคาดว่าจะเริ่มฉีดได้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์
ทั้งนี้ การฉีดจะขึ้นอยู่กับความสมัครใจของเด็กและผู้ปกครอง ขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการอยู่ระหว่างการสำรวจความสมัครใจ โดยสถานที่ฉีดจะใช้โรงเรียนเป็นจุดฉีดหลัก ร่วมกับจุดฉีดที่โรงพยาบาล และสำหรับเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน สามารถเข้ารับการฉีดแบบ Walk In ได้ตามสถานพยาบาลที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกรุงเทพมหานครกำหนดไว้
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามแผนการฉีดวัคซีนเดิมของปี 2564 รัฐบาลตั้งเป้าไว้ที่การฉีดวัคซีนครอบคลุม 70% ของประชากรไทย 70 ล้านคน คิดเป็นจำนวน 50 ล้านคน ใช้วัคซีน 100 ล้านโดส ซึ่งผลการดำเนินการจริง นับถึง 31 ธ.ค. 64 สามารถฉีดวัคซีนแล้วทั้งหมด 104.4 ล้านโดส และสามารถจัดหาวัคซีนรวม 130.6 ล้านโดส ส่วนในปี 65 นี้ มีความพร้อมในการจัดหาวัคซีนจำนวน 120 ล้านโดส เพื่อฉีดเป็นเข็มกระตุ้นให้แก่ประชาชน รวมถึงฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมายเพิ่มเติมคือ เด็กอายุ 5-11 ปี
ขณะเดียวกัน ทางกระทรวงสาธารณสุขได้สั่งการให้โรงพยาบาลในสังกัดทุกแห่ง ประสานเครือข่ายโรงเรียนแพทย์และโรงพยาบาลภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน ให้เตรียมความพร้อมทั้งเตียง ยา วัสดุอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ รองรับผู้ป่วยกลุ่มเด็กให้มากที่สุดหากเกิดกรณีมีการติดเชื้อจำนวนมาก
ผลการทดสอบวัคซีนไฟเซอร์ในเด็ก 5-11 ปี
ผู้บริหารบริษัท Pfizer ได้แถลงความคืบหน้าถึงผลการศึกษาการฉีดวัคซีนให้กับเด็กอายุ 5-11 ปี หลังจากที่วัคซีนของบริษัท ได้รับการอนุมัติให้ฉีดในสถานการณ์ฉุกเฉินในเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปแล้ว
โดยการศึกษาครั้งนี้ ทำในอาสาสมัครเด็กจำนวน 2,268 ราย ฉีดวัคซีนปริมาณเพียงหนึ่งในสามของขนาดปกติคือ ขนาด 10 ไมโครกรัม จากที่ปกติฉีด 30 ไมโครกรัม โดยฉีดเข้ากล้ามเนื้อ 2 เข็มห่างกัน 21 วัน
พบว่า มีความปลอดภัยดี มีผลข้างเคียงเล็กน้อย คล้ายกับผู้ใหญ่
อาการไม่พึงประสงค์หลังรับวัคซีนในเด็ก 5-11 ปี
1. เจ็บตำแหน่งที่ฉีด
2. มีอาการอ่อนเพลีย
3. ปวดกล้ามเนื้อ
4. ปวดศรีษะ
5. มีไข้
ซึ่งหายไปได้ในเวลาไม่กี่วัน ส่วนระดับภูมิคุ้มกัน ก็พบว่าขึ้นได้ดีไม่แตกต่างกับเด็กโตหรือผู้ใหญ่
ขณะที่ ข้อมูลจาก ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา ประธานสมาคมราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ยืนยันว่า การฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในเด็กอายุ 5-11 ปี มีความปลอดภัยและผลข้างเคียงน้อยมาก และจะน้อยกว่าในกลุ่มเด็กอายุ 12-18 ปีอีกด้วย และวัคซีนที่จะใช้ฉีดในเด็กกลุ่มนี้ก็เป็นชนิดที่พัฒนาสำหรับเด็กกลุ่มนี้โดยเฉพาะ คาดว่าจะเริ่มฉีดได้ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ครอบคลุมประมาณ 5 ล้านคน พร้อมระบุว่าเด็กที่ฉีดวัคซีนจะมีภูมิสูงมากกว่ากลุ่มวัยผู้ใหญ่ จึงแนะนำว่าประโยชน์ที่ได้จากการฉีดวัคซีนในกลุ่มเด็ก 5-11 ปี มีความจำเป็นและเกิดประโยชน์มากกว่าการไม่ฉีดวัคซีน
อย่างไรก็ตาม การฉีดวัคซีนในเด็ก 5-11 ปี ต้องเป็นไปตามความสมัครใจของเด็กและผู้ปกครองต้องให้การยินยอม
ภาพ TNNONLINE