รัฐต้องหา “หนอนบ่อนไส้” ชักศึก “หมูเถื่อน” เข้าบ้าน
รัฐต้องหา “หนอนบ่อนไส้” ชักศึก “หมูเถื่อน” เข้าบ้าน
อาบอรุณ ธรรมทาน นักวิชาการอิสระ
นับตั้งแต่ 30 สิงหาคม 2565 หลังสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ร่วมกับสมาคมผู้เลี้ยงหมูทุกทั่วไทยรวมตัวกันเรียกร้องให้ภาครัฐปราบปราม “หมูเถื่อน” อย่างจริงจังให้หมดไป ไม่ให้มาแย่งตลาดและเบียดบังวิถีการเลี้ยงหมูปลอดภัยของเกษตรกรไทย หมูลักลอบนำเข้าเป็นหมูด้อยคุณภาพและไม่ผ่านการตรวจสารปนเปื้อนตามมาตรฐานกรมปศุสัตว์ ขายปะปนกันบนเขียงหมูตลาด ร้านหมูกระทะ หรือ ร้านอาหารตามสั่ง โดผู้บริโภคไม่มีสิทธิ์รับทราบได้เลยว่าสารพิษจากการกินหมูเถื่อน จะเกิดอะไรกับสุขภาพของตัวเองในอนาคต
หมูเถื่อนปราบอย่างไรก็ไม่หมด ยังมีความพยายามลักลอบนำเข้าเพิ่มขึ้น แต่เปลี่ยนช่องทางหลบเลี่ยงเพื่อหลอกล่อเจ้าหน้าที่ให้จับกุมลำบากขึ้น จากท่าเรือแหลมฉบัง เบนหัวเรือไปเข้าท่าเรือที่เวียดนาม แล้วลากตู้คอนเทนเนอร์ผ่านกัมพูชาและลาว มาถ่ายของขึ้นรถบรรทุกเล็กหรือรถกระบะที่ชายแดนไทยทั้งจังหวัดมุกดาหาร และสระแก้ว ซึ่งยังคงเป็น 3 ช่องทางหลัก ที่มีการจับกุมกันถี่ๆ ในช่วงที่ผ่านมา เส้นทางขนส่งและลำเลียงแบบนี้ “คนใน” เท่านั้น ที่จะคิดแผนการทำลายชาติและอนาคตผู้เลี้ยงหมูไทย ในการศึกคนกลุ่มนี้ถูกเรียกว่า “หนอนบ่อนไส้” คอยชี้ทางทีหนีทีไล่ให้ข้าศึกบุกรุก หรือให้ที่หลบซ่อนตัว เพื่อเข้าโจมตีเป้าหมาย ไม่ต่างอะไรกับเวลานี้ ที่สมาคมผู้เลี้ยงทั้งหลายเชื่อว่าช่องทางที่หมูเถื่อนผ่านเข้ามาประเทศไทย คือ “ท่าเรือแหลมฉบัง”
อย่างที่เคยบอกไว้ว่าช่วงนี้ขอทำตัวเป็นสุนัขเฝ้าบ้านตามดมกลิ่นหมูเถื่อนและ “หนอนบ่อนไส้” จนกว่าจะได้ตัวบงการใหญ่ถ้าท่าเรือแหลมฉบัง เป็นช่องทางหลักในการลักลอบนำเข้า “กรมศุลกากร” ผู้มีหน้าที่พิทักษ์ผลประโยชน์ประเทศชาติ ต้องแสดงบทบาทให้ประจักษ์ต่อวงการได้แล้ว ต้องตรวจสอบเห็นสิ่งของต้องห้ามนำเข้าแล้วจับกุมทันที ยิ่งกรณีหมูเถื่อนนับว่าเป็นการ “หยาม” ประสิทธิภาพการทำงานของ “ศุลการักษ์” ยิ่งนัก แค่สำแดงเท็จจากเนื้อหมูเป็นปลาทั้งตู้คอนเทนเนอร์ก็ตรวจไม่พบแล้ว หากการตรวจสอบด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง กอรปกับประสบการณ์ที่เจ้าหน้าที่สั่งสมมานานเป็นไปอย่างโปรงใส โอกาสพลาดเป้าหมายเป็นศูนย์ เพิ่มโอกาสจับได้ “คาตู้ คาท่าเรือ” เป็น 100% ไม่ต้องเสียเวลาลากออกไปจับกุมนอกท่าเรือให้เปลืองแรง เปลืองน้ำมัน เสียเวลาแถลงข่าวจับได้ปลาซิวปลาสร้อย เช่นที่ผ่านมา
3 เดือนที่ผ่านมา ทำให้เชื่อได้ว่า “หนอนบ่อไส้” ยังคงปฏิบัติงานอยู่ที่ท่าเรือแหลมฉบัง ค่อยชี้ช่อง ส่งสัญญาณบอกฤกษ์โจรหรือช่วงที่จะมีการหลับยาม (แสร้งทำเป็นหลับ) ทางสะดวกให้ลากของออกจากท่าเรือโดยไม่ผ่านการตรวจสอบ หากปราบปรามหมูเถื่อนให้สิ้นซากไม่ได้ในระยะสั้น ขอแนะนำให้จับ “หนอนบ่อนไส้” ในท่าเรือแหลมฉบังให้ได้ก่อน และอาจจะมีหนอนหลายตัวให้จับ แต่ก็จำเป็นต้องจับ
ส่วนอีกหนึ่งวิธีที่จะอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติราชการที่นิยมทำ คือ “การโยกย้าย” เช่นก่อนหน้านี้ที่กรมปศุสัตว์สั่งย้ายด่วนหัวหน้าด่านกักกันสัตว์จังหวัดชลบุรี ซึ่งมีอำนาจในการตรวจสอบการนำเข้าซากสัตว์ที่ท่าเรือแหลมฉบัง ออกจากพื้นที่ทันที และส่งข้าราชการน้ำดีคนใหม่เข้ามารับผิดชอบงานพิทักษ์ผลประโยชน์ประเทศชาติและเกษตรกรไทย จับหนอนตัวใหญ่ไม่ยาก ต้องจับให้โดนตัวสัก 2-3 ตัว แล้วโยนลงทะเลไปเป็นอาหารปลา กรมปศุสัตว์ทำแล้ว และยังเดินหน้าทำงานกับตำรวจสืบสวนสอบสวนปราบปรามหมูเถื่อนโดยไม่อ่อนข้อ มุ่งมั่นสาวให้ถึงตัวผู้บงการนำมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด แล้วกรมศุลกากร...ทำหน้าที่ของท่านหรือยัง ในการปราบสิ่งผิดกฎหมายที่จะลักลอบนำเข้าทุกรายการและทุกวิธีการ ยาอ้างว่าช่วงนี้ต้องให้ความสำคัญกับปราบปรามยาเสพติดก่อน ไม่มีอะไรก่อนหรือหลังถ้าผิดกฎหมาย อย่าให้การบริหารจัดการของท่านเป็นการ “ชักศึก” เข้าบ้าน หากล่าช้าจะไม่มีบ้านให้ท่านอยู่