TNN ใช้ความ “ชอบ”พัฒนาทักษะสู่ “อาชีพ” โลกออนไลน์

TNN

กิจกรรม&ข่าวประชาสัมพันธ์

ใช้ความ “ชอบ”พัฒนาทักษะสู่ “อาชีพ” โลกออนไลน์

ใช้ความ “ชอบ”พัฒนาทักษะสู่ “อาชีพ” โลกออนไลน์

ใช้ความ “ชอบ”พัฒนาทักษะสู่ “อาชีพ” โลกออนไลน์ แบ่งเวลาเติมฝัน “เรียน-เล่น-สนุก-มีรายได้” ไปพร้อมกัน

          โลกออนไลน์หรือโซเชียลมีเดียในปัจจุบัน มีความสำคัญและเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของผู้คนในทุกทวีปทั่วโลก เป็นทั้งเครือข่ายการติดต่อสื่อสาร แหล่งสาระความรู้ ความบันเทิง และยังเป็นช่องทางในการประกอบธุรกิจต่างๆ อีกเป็นจำนวนมาก


          ภายในงาน “BKK-เรนเจอร์ x ปิดเทอมสร้างสรรค์ อัศจรรย์วันว่าง” The Miracle Playground @Siam : DREAM & DO ที่ สสส. ร่วมกับ กทม. จัดขึ้นเพื่อให้เด็กและเยาวชนได้มีทางเลือกในการทำกิจกรรมนอกเวลาเรียนตามความสนใจ ได้มีการเปิดเวทีพูดคุยกับไอดอลของคนรุ่นใหม่ในสาขาอาชีพต่างๆ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการค้นหาสิ่งที่ชอบ ต่อยอดพัฒนาเป็นทักษะอาชีพ เพื่อเปลี่ยนวันว่างให้กลายเป็นโอกาสแห่งการเรียนรู้และสร้างสรรค์ ใช้ความ “ชอบ”พัฒนาทักษะสู่ “อาชีพ” โลกออนไลน์           โดยเฉพาะการเล่นเกมส์ออนไลน์ที่เป็นหนึ่งในกิจกรรมยามว่างยอดนิยมของเด็กและเยาวชนในยุคนี้ ที่มองเผินๆ อาจเห็นว่าเป็นแค่เรื่องความสนุก แต่ในปัจจุบันสามารถยกระดับไปเป็นอาชีพได้  

ซึ่ง “โค้ชป้อม” จักรพล ป้อมปราณี วิศวกรไฟฟ้า กฟผ. โค้ชกีฬาอีสปอร์ต(E-Sports) ทีมชาติไทย ที่นำทีมนักกีฬาไปคว้าเหรียญทองซีเกมส์มาครองได้ 2 เหรียญ เล่าให้ฟังว่า การเล่นเกมส์นั้นนอกจากจะมีรายได้จากการเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตแล้ว ยังสามารถต่อยอดไปเป็น Game Streamer / YouTuber หรือเป็นโค้ชแบบตัวเขาเองได้เช่นกัน แต่สิ่งสำคัญก็คือการรู้จักแบ่งเวลาให้เหมาะสม


          “ช่วงที่ยังเรียนมัธยม ส่วนใหญ่จะเล่นเกมตอนหลังเลิกเรียน เล่นเต็มที่ ยกเว้นช่วงใกล้สอบและช่วงสอบจะไม่เล่นเลย จะตั้งใจอ่านหนังสือสอบให้เต็มที่ จนมาถึงช่วงวัยทำงาน เป็นวิศวกรการไฟฟ้า ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ทำงานวันจันทร์ถึงวันศุกร์ 8 โมงเช้า จนถึง 4 โมงเย็น ส่วนงานด้านโค้ช ก็เป็นงานเสริม ที่อาศัยประสบการณ์การเล่นเกมส์มาตั้งแต่สมัยเรียน ม.2 จนถึงช่วงที่ทำงาน ซึ่งเคยได้แชมป์ระดับประเทศ MOBA Legend และ ROV อยู่หลายปี” โค้ชป้อมกล่าว


          แต่การเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตนั้นไม่ได้หมายความว่า จะต้องมุ่งมั่นอยู่กับการเล่นเกมส์โดยไมต้องไปสนใจเรื่องการเรียนหรือเรื่องอื่นๆ ซึ่งในเรื่องนี้นั้น “โค้ชป้อม” ได้สอนน้องๆ ทุกคนเสมอว่า ช่วงชีวิตของนักกีฬา นั้นจะมีช่วงที่ท็อปฟอร์มและขาลง วันไหนที่ไม่มีคนจ้างไปแข่งจะทำอะไรกิน


          “ถ้าไม่มีงานประจำเลย ก็จะไม่มีรายได้ สมมติอยู่ในวงการ เรียนจบใหม่ๆ เล่มเกมมา 4 ปีก็จริง แต่ไม่มีประสบการณ์ในการทำงานด้านอื่นเลย มันก็อาจจะไปต่อด้านอื่นได้ยาก ดังนั้นจึงต้องเรียนรู้ในเรื่องอื่นๆ ไปด้วย ส่วนคนที่มุ่งมั่นในทางนี้ก็ต้องพัฒนาตัวเองต่อยอดไปเป็น Streamer หรือYouTuber เพื่อให้มีรายได้ทางอื่นๆ นอกจากเงินเดือน และเงินรางวัลจากการแข่ง” โค้ชป้อมระบุ ใช้ความ “ชอบ”พัฒนาทักษะสู่ “อาชีพ” โลกออนไลน์

            ส่วนการพัฒนาทักษะจากมือใหม่ไปสู่มืออาชีพหรือเป็นโค้ชได้นั้นต้องอาศัยทักษะหรือสกิล และต้องรู้ข้อมูลของตัวเกมส์เป็นหลัก ซึ่งเป็นความรู้พื้นฐานที่นักกีฬาและโค้ชทุกคนต้องมี แต่การที่จะขยับขึ้นไปเป็นโค้ชนั้น จะต้องมองคู่ต่อสู้ให้ออก รู้รูปแบบวิธีการเล่นใหม่ๆ ที่จะสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้


            “การจะมองให้ออกว่าคู่ต่อสู้เล่นประมาณไหน ต้องไปดูเขา ดูให้เยอะ ดูทีมอื่นๆ เล่น ดูตั้งแต่การซ้อม การแข่งของลีกอื่นๆ แล้วมาประยุกต์ให้เข้ากับทรัพยากรของนักกีฬาที่มีอยู่ในทีม ส่วนการเป็นโค้ชสิ่งสำคัญก็คือการยอมรับจากนักกีฬา เราต้องรู้ว่านักกีฬาต้องการอะไร และต้องทำให้นักกีฬายอมรับในตัวของเราให้ได้ ต้องสอนและอธิบายให้เขาเห็นเป็นภาพได้” โค้ชป้อมย้ำ


            “อยากให้มองว่าการเลนส์เกมส์ไม่ได้มีแค่มุมเดียวคือเป็นเด็กติดเกมส์ แต่มีมุมอื่นๆ ที่เป็นได้ทั้งอาชีพ และสามารถสร้างรายได้รูปแบบใหม่ๆ ได้ในอนาคต และอยากฝากว่าถ้าจะลงมือทำอะไร ให้เตรียมตัวมาเต็มที่ แล้วจะต้องลงมือทำให้สุดๆ จริงๆ ซึ่งถ้าได้รับมอบหมายงานอะไรมาแล้ว ต้องมีความรับผิดชอบและต้องทำงานนั้นออกมาให้ดีที่สุด” โค้ชป้อมฝากทิ้งท้าย


            นอกจากวงการ E-Sport ที่กำลังเป็นกระแสในปัจจุบัน เรื่องของสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ NFT ก็มีความน่าสนใจไม่น้อยไปกว่ากัน เพราะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสร้างอาชีพสร้างรายได้ผ่านการซื้อขายแลกเปลี่ยนกับผู้คนทั่วทุกมุมโลกบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ใช้ความ “ชอบ”พัฒนาทักษะสู่ “อาชีพ” โลกออนไลน์ โดย “เค้ง” ณภัทร อัสสันตชัย ศิลปินดิจิทัล ชั้น ม.ปลาย ผู้สร้างรายได้จากความความชอบและความสุขในการทำสิ่งที่รัก ด้วยการสร้างสรรค์งานศิลปะบนโลกออนไลน์ กล่าวว่า ศิลปะ NFT คือการเปลี่ยนงานศิลปะชิ้นเดียวบนโลกของความเป็นจริง ให้กลายเป็นงานศิลปะบนโลกของออนไลน์

  

          “จุดเริ่มต้นมาจากการที่ตัวเองชอบวาดรูปมาตั้งแต่เด็ก เวลาวาดรูปแล้วก็มีความสุข ได้ผ่อนคลายจากการเรียน  จนกลายมาเป็นกิจวัตรประจำวัน ต่อมาในปี 2020 ช่วงที่มีโควิด-19 ไม่ได้ไปโรงเรียน ไม่ได้ค่าขนม ก็เลยเอาสิ่งที่ทำเป็นประจำอยู่แล้วซึ่งก็คืองานศิลปะ นำมาออกเผยแพร่ในช่องทางโซเชียลต่างๆ  โดยเริ่มจากชิ้นแรกราคา 700 บาทก็ขายได้เลย” น้องเค้งเล่า ใช้ความ “ชอบ”พัฒนาทักษะสู่ “อาชีพ” โลกออนไลน์

          ส่วนคนที่สนใจสร้างรายได้จากงานศิลปะ “เค้ง”บอกว่าอยากให้เริ่มจากศึกษาระบบ NFT ก่อนว่าทำงานยังไง และต้องแยกให้ออกระหว่างศิลปะที่เป็นรูปวาดปกติ กับศิลปะ NFT ซึ่งแตกต่างจากการวาดรูปจริงบนกระดาษ  ในขณะเดียวกันก็ต้องศึกษาว่าลูกค้าหรือคนที่สนใจงานของเราเป็นใคร จะอาศัยเอาแต่ที่ตัวเองชอบอย่างเดียวไม่ได้


          “การวาดรูป NFT หรือศิลปะดิจิทัลนั้นทำได้หลายอย่างมากกว่าในกระดาษ  ซึ่งกระดาษขยับไม่ได้ มันไม่มีเสียง แต่ถ้าวาดแบบ NFT เราทำให้มันขยับได้ มีเสียงได้ เน้นที่ความหลากหลายของงาน และงานศิลปะจะมีแนวทางรูปแบบที่แตกต่างกันไปตามนิสัยและอารมณ์ของศิลปินแต่ละคน ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดว่างานที่ออกมาจะเป็นอย่างไร ซึ่งงานศิลปะ NFT จะกำหนดราคา และกำหนดให้เป็นงานชิ้นเดียวในโลก โดยทุกวันนี้จะจัดสรรเวลาในการวาดรูปหลังเลิกเรียนในตอนกลางคืน” น้องเค้งระบุ

สำหรับคนที่สนใจอยากเป็น ศิลปิน NFT ก็มีคำแนะนำดีๆ จากเค้งว่า “ให้เริ่มต้นจากการมองหาสิ่งที่ชอบก่อน ถ้าเราชอบปุ๊บ เราตั้งใจกับมัน ไม่ว่าจะยังไง มันต้องได้ผลสักอย่าง จะเกิดรายได้ หรือไม่เกิดรายได้ ก็ว่ากันอีกเรื่อง ถ้าเราชอบอะไรแล้วเราเข้าใจกับมันจริงๆ สิ่งนั้นก็คือความถนัด” ใช้ความ “ชอบ”พัฒนาทักษะสู่ “อาชีพ” โลกออนไลน์

“ปีหนึ่งๆ มีวันหยุดมากกว่า 150 วัน เราพบว่าเป็นช่วงที่เด็กๆ สามารถเรียนรู้ได้มากกว่าในห้องเรียนเสียอีก แล้วเขาสามารถที่จะใช้ช่วงเวลานี้ไปเรียน ไปศึกษา ไปทำในสิ่งที่ตัวเองสนใจ สสส. อยากให้ทุกคนเห็นความสำคัญของวันว่างแห่งการสร้างสรรค์ แล้วมาช่วยกันสร้างระบบการเรียนรู้คู่ขนานไปกับระบบการศึกษา ซึ่งการมีพื้นที่เรียนรู้หรือ Learning Space เป็นหนึ่งในกลไกสำคัญในการสร้างทักษะแห่งศตวรรษที่ 21   เพื่อเติมเต็มรากฐานของเด็กและเยาวชนในทุกแต่ละช่วงวัย ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่อง Event และความสนุกสนาน แต่ปิดเทอมสร้างสรรค์จะสร้างอนาคตให้กับเด็กไทยได้เป็นจำนวนมาก”  ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการ สสส. ย้ำความสำคัญ.

ข่าวแนะนำ