วิจัยเผย "ปวดหัวแบบคลัสเตอร์" ปวดรุนแรงที่สุด ยิ่งกว่าคลอดลูก

อะไรคืออาการเจ็บปวดที่รุนแรงที่สุดที่คนจะทนไหว? บางคนบอกว่า ตอนที่เผลอเดินไปแตะขอบเตียง เจ็บสุดแล้ว บางคนก็บอกว่า ปวดไส้ติ่งทรมานมากที่สุด ความเจ็บปวดดูเหมือนจะเรื่องปัจเจก จนกระทั่ง มีงานวิจัยที่เอาจริงกับการศึกษาความเจ็บปวดของมนุษย์ จนได้ข้อสรุปว่า อาการเจ็บปวดที่รุนแรงมากที่สุดของมนุษย์ คือ การปวดหัวแบบคลัสเตอร์

ในงานวิจัย ที่เผยแพร่ในปี 2020 เปิดให้คน 1,600 คนเข้ามาร่วมตอบแบบสอบถาม เพื่อเปรียบเทียบความเจ็บปวดต่างๆ เช่น กระดูกหัก บาดแผลจากการถูกแทง และอาการปวดไมเกรน กับ อาการปวดหัวแบบคลัสเตอร์ ว่าพวกเขาทนอะไรได้มากที่สุด

วิจัยเผย "ปวดหัวแบบคลัสเตอร์" ปวดรุนแรงที่สุด ยิ่งกว่าคลอดลูก

สรุปข่าว

วิจัยเผย "ปวดหัวแบบคลัสเตอร์" ปวดรุนแรงที่สุด ยิ่งกว่าคลอดลูก

การปวดหัวแบบคลัสเตอร์ คืออะไร? 

เป็นการปวดหัว ที่เกิดขึ้นเป็นชุดๆ ครั้งเป็นเวลานานประมาณ 15 นาที ถึง 3 ชั่วโมง  ติดต่อกันหลายวัน หรือหลายสัปดาห์ นอกจากนั้นยังพบร่วมกับอาการอื่นด้วย ได้แก่ น้ำตาไหล น้ำมูกไหล ลืมตาลำบาก ตาแดง คัดจมูกด้านเดียวกับที่ปวด หนังตาบวม เหงื่อออกที่หน้าและหน้าผาก โดยส่วนมากผู้ป่วยมักจะปวดในเวลาเดียวกันของทุกปี

การปวดหัวแบบนี้ เกิดได้ทั้งจากแอลกอฮอล์ การเดินทาง การขึ้นที่สูง ซึ่งโรคนี้มักพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง 

งานวิจัยค้นพบ อะไร?

จากการตอบแบบสอบถามของผู้เข้าร่วม ทำให้เราได้รู้ว่า  อาการปวดหัวแบบคลัสเตอร์ได้รับการจัดอันดับสูงสุดว่าเป็นภาวะที่เจ็บปวดที่สุด โดยผู้ตอบแบบสอบถามให้คะแนนเฉลี่ย 9.7 จาก 10 บนมาตรวัดความเจ็บปวด

อาการปวดหัวแบบคลัสเตอร์ยังถูกอธิบายว่าเป็น "อาการปวดศีรษะที่เจ็บปวดมาก" เมื่อเกิดร่วมกับอาการปวดที่อื่น เช่น ปวดตา ลามไปตามส่วนต่างๆ บนใบหน้า  รวมถึงมีอาการ กระสับกระส่าย คัดจมูกหรือน้ำมูกไหล ก็ยิ่งเพิ่มความทรมานเข้าไปอีก

ส่วนอาการเจ็บปวดอื่นๆ ที่ผู้เข้าร่วมตอบแบบสอบถามให้คะแนนสูง เป็น อันดับ 2 คือการคลอดบุตรด้วยคะแนนเฉลี่ย 7.2 ตามมาด้วย ตับอ่อนอักเสบ เป็นอันดับ 3 และ นิ่วในไตเป็นอันดับ 4 

ที่ น่าประหลาดใจ คือ อาการหัวใจวายได้รับคะแนนเพียง 5 จาก 10  แม้ว่าจะเป็นหนึ่งในภาวะที่เป็นอันตรายถึงชีวิตก็ตาม 

อย่างไรก็ตาม ข้อดีคือ แม้จะทำให้ทรมาน แต่อาการปวดหัวแบบคลัสเตอร์ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต และพบได้น้อยมากและส่งผลกระทบต่อประชากรโลกประมาณ 0.1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

แต่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า หากอาการเข้าข่าย ก็ควรรับไปพบแพทย์