สรุปข่าว
นอกจากประเด็นเรื่องที่ไม่มีชื่ออยู่ในสมาชิกราชวงศ์อังกฤษที่มีชื่อเข้าร่วมซ้อมก่อนพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของคิงชาร์ลส์ (King Charles) พระราชบิดา ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้ ล่าสุด “เจ้าชายแฮร์รี่” (Prince Harry) ดยุกแห่งซัสเซกซ์ ยังมีข่าวว่าอาจไม่ได้ต่อวีซ่าในสหรัฐ จากกรณีที่ทรงเปิดเผยไว้ในหนังสือชีวประวัติเรื่อง “สแปร์” (Spare) ว่าเคยเสพทั้งโคเคน, กัญชา และเห็ดเมา
โดยในหนังสือชีวประวัตินั้น “เจ้าชายแฮร์รี่” เล่าว่าทรงเสพโคเคน ตอนพระชนม์ 17 พรรษา และเสพต่อเนื่องมาอีกหลายครั้ง รวมถึงเคยใช้ยาหลอนประสาทในงานปาร์ตี้รวมเซเลบคนดังในสหรัฐ และยังทรงเสพกัญชาตอนออกเดตครั้งแรกกับ “เมแกน มาร์เคิล” (Meghan Markle) หรือ “ดัชเชสเมแกน” พระชายา (คลิกชมบทสัมภาษณ์เจ้าชายแฮร์รี่)
ภาพจาก: AP
ทั้งนี้ กฎหมายคนเข้าเมืองของสหรัฐ ระบุไว้ว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรืออาชญากรรมทั้งในอดีตและปัจจุบัน อาจขาดคุณสมบัติในการยื่นขอวีซ่า หรือพูดง่ายๆ ว่าถ้าใช้ยาเสพติดหรือต้องคดีอาญาก็ยากที่จะขอวีซ่าสำเร็จ ในขณะที่วีซ่าปัจจุบันที่เจ้าชายแฮร์รี่ทรงถือนั้น คาดว่าจะเป็นประเภทที่มีการต่อทุกๆ 3 ปี จากการมีภรรยาเป็นชาวอเมริกัน ซึ่งหากนับเวลาจากที่พระองค์ทรงย้ายจากอังกฤษมาพำนักในแคลิฟอร์เนีย เมื่อปี 2020 นั่นหมายความว่า วีซ่าของพระองค์กำลังจะหมดและต้องต่อใหม่ในปีนี้
นั่นก็เลยเป็นที่มาให้ล่าสุดประเด็นเรื่องการใช้ยาเสพติดของพระองค์ถูกรื้อฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง โดยหน่วยงานอนุรักษ์นิยมอย่าง The Heritage Foundation ที่มีการเรียกร้องให้ทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลว่า “เจ้าชายแฮร์รี่” ทรงยอมรับหรือไม่ว่าทรงใช้ยาเสพติดก่อนย้ายมาพำนักที่สหรัฐเมื่อปี 2020 เพราะไม่ว่าคำตอบจะออกมาเป็นยอมรับหรือไม่ยอมรับ ก็ล้วนแต่จะเรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ได้ทั้งหมด
ภาพจาก: AP
โดยหากคำตอบคือทรงยอมรับว่าใช้ยาต้องห้าม เรื่องก็จะสะท้อนกลับไปถึงทางการสหรัฐว่ามีการเลือกปฏิบัติ เพราะยาเสพติดถือเป็นหนึ่งในข้อห้ามสำคัญ แต่ถ้าไม่ยอมรับว่าทรงใช้ยา นั่นก็เหมือนกับเจ้าชายแฮร์รี่ ทรงบิดเบือนหรือบอกความจริงไม่หมดแก่ทางการสหรัฐเพื่อจะขอวีซ่าให้ได้
อย่างไรก็ตาม ผู้สันทัดกรณีออกมาแจงก่อนหน้านี้แล้วว่า ประวัติการขอวีซ่าถือเป็นข้อมูลลับทางกฎหมายของทางการ ไม่สามารถนำมาเปิดเผยได้ รวมทั้งย้ำว่าแนวทางการอนุมัติวีซ่าจะต้องพิจารณาเป็นกรณีไป
แต่ถึงอย่างนั้นในรายงานข่าวล่าสุดมีการพาดหัวข่าวไว้ว่า “เจ้าชายแฮร์รี่” ทรงได้รับคำเตือนว่าแม้จะเป็นสมาชิกราชวงศ์ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นหากทำผิดกฎหมาย และบางสำนักข่าวพาดหัวว่าทรงเสี่ยงจะถูกขับออกจากสหรัฐจากความผิดดังกล่าวนี้กันเลยทีเดียว!!
ภาพจาก: AP
ภาพจาก: Youtube ABC News
ที่มาข้อมูล : -