นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) และในฐานะโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย เดือนธ.ค. 2567 มีมูลค่า 24,765 ล้านดอลลาร์ ขยายตัวร้อยละ 8.7 ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 จากปัจจัยการส่งออกสินค้าทุน และวัตถุดิบของไทยในทุกหมวด และยังขยายตัวเกือบทุกตลาดส่งออกสำคัญ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของนโยบายทางการค้าโลกในระยะข้างหน้า
ส่งให้ภาพรวมการส่งออกของไทยในปี 2567 มีมูลค่าการส่งออกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยการส่งออกในรูปของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ พุ่งทะยานสู่ระดับ 300,529 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นครั้งแรก เช่นเดียวกับการส่งออกในรูปของเงินบาท ก็มีมูลค่าสูงกว่า 10 ล้านล้านบาท เป็นครั้งแรกเช่นเดียวกัน
สำหรับการส่งออกทั้งปี 2568 กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าหมายการขยายตัวไว้ได้ที่ร้อยละ 2-3 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ที่คาดว่าจะเติบโตใกล้เคียงในระดับปัจจุบัน แรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ การย้ายฐานการผลิตมายังกลุ่มประเทศอาเซียน รวมถึงไทยมากขึ้น และการเร่งส่งเสริมการใช้ซอฟต์พาวเวอร์ของไทยเชื่อมโยงกับสินค้าส่งออก เพื่อสร้างเอกลักษณ์ให้เป็นที่จดจำในระดับโลก
อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยท้าทายจากความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ซึ่งกระทบกับบรรยากาศการค้าโลก ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่ยืดเยื้อยาวนาน และความผันผวนจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้ทุกกรมที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และมีแผนจะเดินทางไปสหรัฐอเมริกา และพูดคุยในประเด็นต่าง ๆ กับรัฐบาลใหม่สหรัฐในเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยประเด็นหลักๆ คือการเจรจาเรื่องภาษีนำเข้าสินค้าจากไทย
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ จะติดตามสถานการณ์ และวางแผนเตรียมความพร้อมร่วมกับภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การค้าไทยเติบโตอย่างยั่งยืน
สรุปข่าว