มาตรการ Easy E-Receipt 2.0 เริ่มต้นขึ้น ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม นับจนถึงวันนี้ (23 มกราคม) ผ่านมาแล้ว 1 สัปดาห์พอดี ทำให้กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า มีความคึกคักมากทีเดียว
คุณ เฉลิมชัย รัตนเอม ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ บริษัท ทีซีแอล อิเล็กทรอนิกส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ให้ข้อมูลว่า จากการติดตาม พบว่า ตัวเลขยอดขายสินค้าเติบโตสูงขึ้นประมาณร้อยละ 20-30 จากมาตรการดังกล่าว และมีการเติบโตในทุกกลุ่มสินค้า ซึ่งส่วนหนึ่ง มาจากการที่ผู้บริโภครอมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว และเมื่อมาตรการเริ่มใช้ ก็ทำให้มีการใช้จ่ายทันที ขณะเดียวกัน ลูกค้าในกลุ่มนี้หลัก ๆ แล้วเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ เชื่อว่าปัจจัยทางเศรษฐกิจไม่ได้ส่งผลกระทบกับการใช้จ่ายมากนัก ทำให้ไตรมาส 1 ยังคงมีการใช้จ่ายต่อเนื่อง
และคาดว่าเฉพาะไตรมาส 1 ของปีนี้ ยอดขายน่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 ซึ่งเป็นตัวเลขในภาพรวมของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า และของ TCL เองด้วย ที่ออกแคมเปญกับพาร์ทเนอร์ และแคมเปญผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อร่วมในมาตรการดังกล่าวนี้ด้วย
สรุปข่าว
Easy E-Receipt 2.0 เป็นมาตรการซื้อสินค้าและบริการภายในประเทศ ที่สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้ เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2568 ไปจนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 นี้ ซึ่งผู้เสียภาษีที่จะใช้สิทธิ ต้องได้รับเอกสารยืนยันการใช้จ่ายในรูปแบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (อี-แท็กซ์ อินวอยซ์) หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (อี-รีซีท) เท่านั้น
ส่วนวงเงินลดหย่อนภาษี ได้สูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท แบ่งเป็น สินค้าและบริการทั่วไป มูลค่าลดหย่อนสูงสุด 30,000 บาท และ อีกจำนวน 20,000 บาท สำหรับซื้อสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (โอท็อป), สินค้าและบริการที่จ่ายให้แก่วิสาหกิจชุมชน และสินค้าหรือค่าบริการที่จ่ายให้แก่วิสาหกิจชุมชนเพื่อสังคม แต่ต้องได้รับเอกสารยืนยันเป็น อี-แท็กซ์ อินวอยซ์ หรือ อี-รีซีท เช่นกัน