โลกร้อนทำผีเสื้อจักรพรรดิลดลง เตรียมขึ้นบัญชีสัตว์ใกล้สูญพันธุ์
สำหรับผีเสื้อจักรพรรดิเป็นผีเสื้อที่มักอาศัยอยู่ในทวีปอเมริกา ลักษณะของปีกมีสีส้มตัดขอบดำ ซึ่งล่าสุดด้านองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติได้ประกาศสถานะของผีเสื้อจักรพรรดิว่าเข้าสู่สถานะใกล้สูญพันธุ์แล้ว ซึ่งปกติแล้วในช่วงเดือนปลายเดือนตุลาคมจนถึงช่วงเดือนพฤศจิกายนของทุกปีจะเป็นช่วงอพยพของ “ผีเสื้อจักรพรรดิ” จำนวนนับล้านตัวจากตะวันออกของสหรัฐอเมริกาและแคนาดาเพื่อหนีภัยหนาว ไปยังพื้นที่ป่าทางตอนกลางและตะวันตกในเม็กซิโกที่อบอุ่นกว่า เป็นระยะทางกว่า 3,000 กิโลเมตร แต่ปีนี้สภาพอากาศบริเวณพื้นที่ทางตอนเหนือของทวีปอบอุ่นขึ้นกว่าปกติทำให้ “ผีเสื้อจักรพรรดิ” เริ่มอพยพช้าไปจากเดิม ทำให้พวกมันอพยพถึงเม็กซิโกในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ผลกระทบที่เกิดขึ้นคือช่วงเวลาที่ผีเสื้ออพยพอาจจะไม่สัมพันธ์กับการออกดอกของดอกไม้ นั่นหมายถึงน้ำหวานที่เป็นแหล่งอาหารของผีเสื้ออาจมีไม่เพียงพอต่อจำนวนของพวกมัน และอาจเป็นสาเหตุทำให้ประชากรลดลงได้อีก
สรุปข่าว
ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวล เพราะจำนวนประชากรผีเสื้อจักรพรรดิลดลงเรื่อยๆ โดยในช่วงปี 2563-2564 พบว่ามีประชากรประมาณ 27 ล้านตัว หลังจากนั้นในช่วงปี 2564-2566 จำนวนก็ลดลงอีก เหลือประมาณ 21 ล้านตัว และในช่วงปลายปี 2566 ถึงต้นปี 2567 จำนวนประชากรผีเสื้อจักรพรรดิก็ลดลงอีก 59% จากปีก่อน เหลือประมาณ 9 ล้านตัว ซึ่งถือเป็นจำนวนประชากรที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เริ่มการติดตามในรอบ 30 ปีเลยทีเดียว
จากการวิเคราะห์พบว่าพวกมันเสี่ยงสูญพันธุ์จากภัยคุกคามของการสูญเสียที่อยู่ การใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชและการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ซึ่งปกติแล้วพวกมันชอบอาศัยอยู่ตามป่าสนที่เม็กซิโก แต่ปัจจุบันนั้นพื้นที่ป่าในเม็กซิโกก็ถูกแผ้วถางเพื่อการเกษตรไปมาก รวมถึงปัญหาไฟป่าที่มีขึ้นบ่อย ๆ ทำให้จำนวนของพวกมันลดลงอย่างรวดเร็ว
นับเป็นการลดลงของประชากรผีเสื้อจักรพรรดิที่น่าใจหาย ซึ่งปัจจัยสำคัญก็มาจากเรื่องของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ซึ่งมาจากฝีมือมนุษย์นั่นเอง
ที่มาข้อมูล : TNN
ที่มารูปภาพ : กระทรวงทรัยพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม