ไฟป่าหลายสิบจุดที่ปะทุขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เผาผลาญพื้นที่เป็นบริเวณกว้างทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ ส่งผลให้ประชาชนราว 27,000 คนต้องอพยพออกจากพื้นที่อย่างเร่งด่วน ขณะที่โครงสร้างพื้นฐานอย่างถนนและสายสื่อสารได้รับความเสียหายอย่างหนัก
กระทรวงมหาดไทยของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุไฟป่าแล้วอย่างน้อย 24 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 26 คน ในจำนวนนี้ 12 คนมีอาการสาหัส อย่างไรก็ตาม ยอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้น เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย
ไฟป่าครั้งนี้ได้เผาทำลายพื้นที่ไปแล้วกว่า 180,000 ไร่ โดยเฉพาะที่เมืองอุยซอง ซึ่งได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด คิดเป็นพื้นที่เสียหายกว่า 87% ทำให้ไฟป่าครั้งนี้กลายเป็นหนึ่งในเหตุไฟป่าที่รุนแรงที่สุดของเกาหลีใต้ รองจากเหตุการณ์ในเดือนเมษายน ปี 2543 ซึ่งเผาผลาญพื้นที่ชายฝั่งด้านตะวันออกไปเกือบ 150,000 ไร่
สรุปข่าว
รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ยกระดับเตือนภัยขั้นสูงสุด พร้อมทั้งอพยาย้ายผู้ต้องขังออกจากเรือนจำในพื้นที่เสี่ยง ขณะที่ ฮัน ด็อก-ซู รักษาการประธานาธิบดีของเกาหลีใต้ ระบุว่า ไฟป่าครั้งนี้ลุกลามติดต่อกันเป็นวันที่ 5 และสร้างความเสียหายหนักเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้
ในหลายชุมชน ไฟป่าได้สร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนและสถานที่สำคัญ โดยเฉพาะในเขตอุยซอง ที่วัดโกอุนซา ซึ่งเป็นหนึ่งในวัดขนาดใหญ่ของจังหวัดคยองซังเหนือ และมีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่ปี ค.ศ. 618 ถูกเพลิงเผาทำลาย นอกจากนี้ อาคารโบราณจากยุคโชซอนที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติของชาติก็เสียหายจากไฟป่าเช่นกัน
ขณะเดียวกัน มรดกโลกที่ขึ้นทะเบียนโดยยูเนสโก 2 แห่ง ได้แก่ “หมู่บ้านโบราณฮาฮเว” ในเมืองอันดง และ “โรงเรียนโบราณพย็องซาน ซอวอน” กำลังตกอยู่ในความเสี่ยงจากเปลวไฟที่ลุกลามเข้ามาใกล้
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ไฟป่าครั้งนี้รุนแรงขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศที่แห้งแล้งผิดปกติ ปริมาณน้ำฝนในปีนี้ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ทำให้ไฟป่าเกิดขึ้นบ่อยครั้งและมีความรุนแรงมากกว่าปีที่ผ่านมาเกือบสองเท่า
สุนิดา สวัสดิพรพัลลภ