ทช.ชันสูตรซาก "วาฬบรูด้า" เกยตื้นบางปู คาดถูกใบพัดเรือฟันตาย

จากกรณีพบวาฬบรูด้า (Bryde's whale: Balaenoptera edeni) เกยตื้นตายใกล้เขตชายฝั่งทะเลบางปู จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา สภาพซากเริ่มเน่า ผิวหนังหลุดลอก

ล่าสุดดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (อทช.) เปิดเผยว่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนบน (ศวทบ.) ร่วมกับเครือข่ายรักษ์อ่าวไทยตอนบน เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเลสมุทรปราการ กรมประมง องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ และอาสาสมัคร ร่วมลงพื้นที่ชันสูตรซากวาฬบรูด้า พบว่าวาฬวัยรุ่น อายุไม่เกิน 3 ปี ที่มีความสมบูรณ์ของร่างกายดี แต่พบบาดแผลเป็นรอยตัดลึกจากของมีคม ผิวหนังบริเวณปลายกรามบน กรามล่างทั้งสองข้างหัก กะโหลกด้านซ้ายแตก เนื้อเยื่อโดยรอบเป็นรอยช้ำ คั่งเลือด เป็นวงกว้าง และมีรอยช้ำขนาด 160 ซม. ด้านหลังบริเวณลำตัว ระบบทางเดินหายใจ พบการคั่งเลือดที่ปอดซ้ายอย่างรุนแรง มีเลือดออกในเยื่อหุ้มปอด ระบบหัวใจและหลอดเลือด พบลิ่มเลือดในหลอดเลือดแดง Aorta เล็กน้อย ลิ้นหัวใจปกติ ระบบทางเดินอาหารพบอาหารตลอดแนวลำไส้เล็กถึงลำไส้ส่วนท้ายและไม่พบสิ่งแปลกปลอมในระบบทางเดินอาหาร รวมถึงอวัยวะภายในอื่น ๆ ตับ ม้าม ไต ตับอ่อน และระบบสืบพันธุ์เน่าสลาย

ทช.ชันสูตรซาก "วาฬบรูด้า" เกยตื้นบางปู คาดถูกใบพัดเรือฟันตาย

สรุปข่าว

กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เผยผลผ่าชันสูตรซาก “วาฬบรูด้า” เกยตื้นตายใกล้เขตชายฝั่งทะเลบางปู เกิดจากการถูกของแข็งรอบแรงเหวี่ยงสูง กระแทกโดยตรง และเกิดการเสียเลือดปริมาณมากอย่างรวดเร็ว และเกิดภาวะช็อคจากการสูญเสียเลือดและเจ็บปวดอย่างรุนแรง

โดยสรุป สาเหตุการตายเกิดจากการถูกของแข็งรอบแรงเหวี่ยงสูง กระแทกโดยตรง และเกิดการเสียเลือดปริมาณมากอย่างรวดเร็ว และเกิดภาวะช็อคจากการสูญเสียเลือดและเจ็บปวดอย่างรุนแรง

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ฯ จะนำโครงกระดูกดังกล่าวมาเก็บรักษาไว้ ณ อาคารจัดแสดงโครงกระดูกวาฬบรูด้าและนิทรรศการโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้สัตว์ทะเลหายากในพื้นที่อ่าวไทยตอนบนต่อไป

ปัจจุบันวาฬบรูด้าเป็นสัตว์สงวนตามบัญชีแนบท้าย พรบ.สงวนคุ้มครองสัตว์ป่า 2562 โดยในประเทศไทยมีรายงานการพบวาฬบรูด้าทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน นับตั้งแต่ปี 2554 พื้นที่อ่าวไทยถูกรู้จักในฐานะแหล่งอาศัยและศึกษาเกี่ยวกับวาฬบรูด้าที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในทวีปเอเชีย 


avatar

Kitsana Sangsri
(Kitsana Sangsri)