“โคราช” แล้งหนัก เหลือน้ำผลิตประปาแค่ 20 วัน ประสานเขื่อนปล่อยน้ำช่วยด่วน!

ด้าน นายสนธิ บุญศิริ ผู้จัดการประปาส่วนภูมิภาค สาขานครราชสีมา เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีผู้ใช้น้ำจากการประปาส่วนภูมิภาค สาขานครราชสีมากว่า 46,000 ราย ในพื้นที่อำเภอเมืองนครราชสีมา และอำเภอเฉลิมพระเกียรติ โดยโรงผลิตน้ำประปาต้องอาศัยน้ำจากอ่างเก็บน้ำมูลบน และอ่างเก็บน้ำลำแชะ อำเภอครบุรี ที่ปล่อยน้ำลงมาตามแม่น้ำมูล โดยจะสูบเข้าไปเก็บไว้ในบ่อน้ำดิบ 3 บ่อ ซึ่งจุน้ำดิบได้ประมาณ 4 ล้าน 1 แสนลูกบาศก์เมตร แต่ปัจจุบันบ่อเก็บน้ำดิบ เหลือน้ำเพียง 1 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถใช้ผลิตประปาได้เพียง 20 วันเท่านั้น จึงประสานอ่างเก็บน้ำทั้ง 2 แห่ง ปล่อยน้ำมาให้แล้วตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา รวมปริมาณน้ำกว่า 20 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่เนื่องจากระยะทางการไหลกว่า 114 กิโลเมตร จึงต้องใช้เวลาประมาณ 10 วัน กว่าน้ำจะมาถึงโรงสูบ การประปาส่วนภูมิภาค จึงต้องบริหารจัดการน้ำดิบที่เหลือเพื่อลดความเสี่ยง โดยการลดแรงดันน้ำลงในช่วงคนใช้น้ำน้อย และจะปรับแรงดันน้ำตามปกติในช่วงคนใช้น้ำมาก จึงอาจจะส่งผลกระทบทำให้น้ำไหลอ่อนในบางช่วงเวลา แต่คาดว่าหลังวันที่ 15 มีนาคม จะสามารถผลิตและจ่ายน้ำได้ตามปกติ

ด้าน นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า พื้นที่ต้องเฝ้าระวังวิกฤตภัยแล้งในขณะนี้ คือ เขื่อนลำตะคอง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งมีปริมาณน้ำเพียงร้อยละ 20 โดยทุกหน่วยงานได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยทาง สทนช. ได้เน้นย้ำหน่วยงานพื้นที่กำหนดการใช้น้ำ โดยเฉพาะน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค พร้อมยืนยันว่ามีปริมาณน้ำอุปโภคบริโภคเพียงพอในช่วงหน้าแล้งอย่างแน่นอน โดยในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา อิทธิพลของพายุฤดูร้อนที่เกิดขึ้น ได้ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนด้านภัยแล้งให้กับหลายพื้นที่ เช่น ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระยอง จันทบุรี ตราด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ที่ปลูกผลไม้ก็ส่งผลให้สถานการณ์ดีขึ้น