วิกฤต “ผีเสื้อ” ในสหรัฐฯ ประชากรลดฮวบ 22% สัญญาณเตือนภัยสิ่งแวดล้อม

ประชากรผีเสื้อในสหรัฐอเมริกาลดลงอย่างน่าตกใจมากกว่าหนึ่งในห้าในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศที่กำลังถดถอย การศึกษาที่ครอบคลุมสายพันธุ์ผีเสื้อกว่า 554 สายพันธุ์ แสดงให้เห็นว่าจำนวนผีเสื้อลดลงร้อยละ 22 ระหว่างปี 2543 ถึง 2563 ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้เกิดการสูญเสียดังกล่าว ได้แก่ การทำลายถิ่นที่อยู่อาศัย การใช้สารเคมีทางการเกษตร และผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

สำหรับ ผีเสื้อไม่ได้เป็นเพียงแมลงที่มีสีสันสวยงามเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศ โดยเฉพาะในกระบวนการผสมเกสรให้แก่พืชพรรณต่าง ๆ การลดลงของประชากรผีเสื้ออาจเป็นสัญญาณเตือนถึงความเปลี่ยนแปลงทางสิ่งแวดล้อมที่กว้างขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อทั้งพืชที่ต้องพึ่งพาผีเสื้อในการขยายพันธุ์ และสัตว์อื่น ๆ ที่อาศัยพวกมันเป็นแหล่งอาหาร

วิกฤต “ผีเสื้อ” ในสหรัฐฯ ประชากรลดฮวบ 22%  สัญญาณเตือนภัยสิ่งแวดล้อม

สรุปข่าว

วิกฤติประชากรผีเสื้อในสหรัฐฯ ลดลงกว่า 22% สะท้อนภัยคุกคามทางสิ่งแวดล้อม ด้านนักวิจัยพบว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภัยแล้ง และการใช้สารเคมี ส่งผลให้จำนวนผีเสื้อลดลงอย่างรวดเร็วในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา การสูญเสียแมลงผสมเกสรเหล่านี้อาจกระทบต่อระบบนิเวศและความมั่นคงทางอาหารทั่วโลก

นักวิจัยพบว่า ผีเสื้อในภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ ซึ่งครอบคลุมถึงรัฐแอริโซนา นิวเม็กซิโก โอคลาโฮมา และเท็กซัส ลดลงมากที่สุด เอลิซา แกรเมส นักชีววิทยาด้านการอนุรักษ์จากมหาวิทยาลัยบิงแฮมตัน นิวยอร์ก ระบุว่า "เราเชื่อว่าภัยแล้งที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ อันเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผีเสื้อในภูมิภาคนี้ลดจำนวนลง" ความแห้งแล้งและอุณหภูมิที่สูงขึ้นทำให้พืชอาหารของหนอนผีเสื้อและแหล่งน้ำลดลง ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อการดำรงชีวิตของผีเสื้อ

นอกเหนือจากภัยแล้งแล้ว การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยังส่งผลต่อวงจรชีวิตของผีเสื้อ เช่น การเปลี่ยนแปลงฤดูกาลที่ทำให้เกิดความไม่สอดคล้องกันระหว่างช่วงเวลาการฟักตัวของหนอนผีเสื้อกับการออกดอกของพืชอาหาร นอกจากนี้ การใช้สารกำจัดศัตรูพืชและยาฆ่าแมลงอย่างแพร่หลายในภาคเกษตรกรรมยังส่งผลกระทบต่อผีเสื้อโดยตรง โดยทำให้พวกมันได้รับสารพิษสะสมและลดจำนวนลง

การลดลงของผีเสื้อสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน นักอนุรักษ์เสนอแนวทางที่สามารถช่วยฟื้นฟูประชากรผีเสื้อ เช่น 

  • การอนุรักษ์และฟื้นฟูถิ่นที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะพื้นที่ธรรมชาติที่เต็มไปด้วยพืชอาหารของหนอนผีเสื้อและแหล่งน้ำที่เพียงพอ 
  • การลดการใช้สารเคมีทางการเกษตร และส่งเสริมการเกษตรเชิงอนุรักษ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
  • การปลูกพืชพื้นเมืองที่เป็นอาหารของผีเสื้อ เพื่อช่วยให้พวกมันสามารถดำรงชีวิตและขยายพันธุ์ได้
  • การส่งเสริมการวิจัยและการเฝ้าระวัง เพื่อติดตามสถานการณ์และหามาตรการป้องกันเพิ่มเติม

การลดลงของผีเสื้อในสหรัฐฯ เป็นเพียงหนึ่งในตัวอย่างของการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพที่เกิดขึ้นทั่วโลก แมลงอื่น ๆ เช่น ผึ้ง และแมลงผสมเกสรชนิดต่าง ๆ ก็เผชิญกับวิกฤติในลักษณะเดียวกัน การลดลงของประชากรแมลงอาจส่งผลต่อห่วงโซ่อาหารและระบบนิเวศโดยรวม ดังนั้น การปกป้องแมลงผสมเกสรเหล่านี้จึงไม่เพียงแต่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม แต่ยังมีความสำคัญต่อความมั่นคงทางอาหารของมนุษย์ด้วย


หากไม่มีการดำเนินมาตรการแก้ไขที่จริงจังและทันท่วงที โลกอาจเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อทั้งธรรมชาติและมนุษยชาติในอนาคต

ที่มาข้อมูล : TNN EARTH

ที่มารูปภาพ : ENVATO

avatar

Sane Srisukhot
(Sane Srisukhot)