สภาพอากาศ 24 ก.พ. – 2 มี.ค. ทั่วไทยอากาศร้อน เช็กแต่ละภาคอุณหภูมิสูงสุด กี่องศาฯ

ภายหลัง กรมอุตุนิยมวิทยา ได้เผยว่าประเทศไทยจะเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อน 2568 ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 และจะสิ้นสุดช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2568 โดยในปีนี้จะเป็นปีลานีญากำลังอ่อน คาดไม่ร้อนเท่าปีที่ผ่านมา

โดยสภาพอากาศในช่วงต้นเดือนถึงกลางเดือนมีนาคม จะร้อนอบอ้าวหลายพื้นที่ในตอนกลางวัน แต่บริเวณภาคเหนือและภาคอีสานยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า และมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นได้เป็นระยะ ช่วงปลายเดือนมีนาคมถึคงกลางเดือนเมษายน มีอากาศร้อนอบอ้าวเกือบทั่วไป มีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 42-43 องศาเซลเซียส ต้องเฝ้าระวังฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก 

นอกจากนี้อากาศร้อนจัดยังเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยและไฟป่า รวมถึงโรคลมแดดอีกด้วย และตั้งแต่กลางเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคมจะเป็นช่วงเปลี่ยนฤดูกาลจากฤดูร้อนเป็นฤดูฝน สภาพอากาศแปรปรวน ร้อนอบอ้าวเป็นระยะๆ กับมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากลมตะวันออกเฉียงใต้หรือลมใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบนเริ่มเปลี่ยนเป็นมรสุมตะวันตกเฉียงใต้

 สภาพอากาศ 24 ก.พ. – 2 มี.ค. ทั่วไทยอากาศร้อน เช็กแต่ละภาคอุณหภูมิสูงสุด กี่องศาฯ

สรุปข่าว

ไทยเข้าสู่ฤดูร้อน 28 กุมภาพันธ์ ล่าสุด กรมอุตุนิยมวิทยา รายงาน สภาพอากาศ 24 กุมภาพันธ์ – 2 มีนาคม 2568 แต่ละพื้นที่อากาศร้อนในตอนกลางวัน เช็กเลยแต่ละภาคอุณหภูมิสูงสุดกี่องศาฯ

คาดหมายอากาศรายภาค ระหว่างวันที่ 24 กุมภาพันธ์ – 2 มีนาคม พ.ศ. 2568

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 24 – 25 ก.พ. อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่งในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 - 32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6 - 15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 26 ก.พ. – 2 มี.ค. อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างและด้านตะวันออกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 17 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 – 38 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8 - 16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 5 - 15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 24 – 25 ก.พ. อากาศเย็นกับมีลมแรง โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่งในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26 - 31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11 - 16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 26 ก.พ. – 2 มี.ค. อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างและด้านตะวันตกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 18 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 - 37 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14 - 18 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 15 กม./ชม.

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 24 - 25 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางและลูกเห็บตกบางแห่งในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1 – 2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 26 ก.พ.  – 2 มี.ค.  มีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 – 37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 15 กม./ชม7

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 24 – 25 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1 – 2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 26 ก.พ. – 2 มี.ค. มีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36 – 38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

ในช่วงวันที่ 24 – 26 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานี ขึ้นมา: ลมตะวันออก ความเร็ว 20 - 35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงไป: ลมตะวันออก ความเร็ว 20 - 40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 31 องศาเซลเซียส

ส่วนในช่วงวันที่ 27 ก.พ. – 2 มี. ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานี ขึ้นมา: ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงไป: ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 35 องศาเซลเซียส

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

ในวันที่ 24 - 26 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22 - 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 - 33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 27 ก.พ. – 2 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23 - 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 - 36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพและปริมณฑล

ในช่วงวันที่ 24 – 25 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1 – 2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 26 ก.พ. – 2 มี.ค. มีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 – 37 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10 - 15 กม./ชม.

อ่านข่าว : ฤดูร้อน 2568 อากาศร้อนจัดหลายพื้น เช็กเลยภาคไหน? อุณหภูมิสูงสุด

ที่มาข้อมูล : กรมอุตุนิยมวิทยา

ที่มารูปภาพ : AFP