ประเทศฝรั่งเศสต้องเผชิญกับสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและรุนแรง หลังพายุเฮอร์มิเนีย (Herminia) พัดถล่มหลายภูมิภาค ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องและน้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะทางตอนเหนือและตะวันตกของประเทศ ซึ่งได้รับผลกระทบหนักที่สุด
ตามรายงานของหน่วยงานอุตุนิยมวิทยาฝรั่งเศส (Météo-France) พายุเฮอร์มิเนียได้ก่อตัวขึ้นในมหาสมุทรแอตแลนติกก่อนจะเคลื่อนตัวเข้าสู่แผ่นดินใหญ่ฝรั่งเศสด้วยความเร็วลมสูงสุดกว่า 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักเป็นประวัติการณ์ในหลายเมือง เช่น น็องต์, แรนส์ และรูอ็อง โดยปริมาณฝนในบางพื้นที่สูงถึง 200 มิลลิเมตรภายใน 24 ชั่วโมง
สรุปข่าว
สถานการณ์น้ำท่วมได้สร้างความเสียหายอย่างหนักต่อบ้านเรือนประชาชน ถนนหลายสายถูกตัดขาด และพื้นที่เกษตรกรรมได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง นอกจากนี้ ยังมีรายงานผู้บาดเจ็บและสูญหายหลายราย โดยทางการได้อพยพประชาชนกว่า 10,000 คนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยแล้ว
รัฐบาลฝรั่งเศสได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในหลายจังหวัด และระดมกำลังทหาร พร้อมหน่วยกู้ภัยเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย ประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อผู้ได้รับผลกระทบ และย้ำว่าจะเร่งฟื้นฟูพื้นที่ที่เสียหายอย่างเต็มที่
นักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพอากาศได้เตือนว่า เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้อาจเป็นผลจากภาวะโลกร้อนที่ทำให้พายุมีความรุนแรงมากขึ้น และเรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกเร่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อป้องกันภัยพิบัติทางธรรมชาติในอนาคต
ขณะนี้ หลายประเทศในยุโรปได้เสนอความช่วยเหลือแก่ฝรั่งเศส เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากภัยพิบัติครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์น้ำท่วมที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
สำหรับผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม น้ำท่วมครั้งนี้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจและสังคมของฝรั่งเศส หลายธุรกิจต้องปิดทำการชั่วคราว โดยเฉพาะร้านค้าและโรงงานในพื้นที่น้ำท่วมขัง นอกจากนี้ การคมนาคมขนส่งก็ได้รับผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากถนนหลายสายถูกน้ำท่วมและสะพานหลายแห่งได้รับความเสียหาย สนามบินในเมืองน็องต์และแรนส์ต้องปิดทำการชั่วคราว ส่งผลให้การเดินทางทั้งภายในและระหว่างประเทศหยุดชะงัก
ทางการฝรั่งเศสคาดการณ์ว่า ความเสียหายทางเศรษฐกิจจากเหตุการณ์นี้อาจสูงถึงหลายพันล้านยูโร โดยเฉพาะในภาคเกษตรกรรมที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด เนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกหลายแห่งถูกน้ำท่วมจนเสียหาย ส่งผลให้ผลผลิตทางการเกษตรลดลงอย่างมาก
ส่วนการช่วยเหลือจากนานาชาติหลายประเทศในยุโรปได้เสนอความช่วยเหลือแก่ฝรั่งเศส เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากภัยพิบัติครั้งนี้ ประเทศเยอรมนี สเปน และอิตาลี ได้ส่งทีมกู้ภัยและอุปกรณ์ช่วยเหลือมาเสริมกำลังให้กับหน่วยงานท้องถิ่น นอกจากนี้ สหภาพยุโรปยังได้ประกาศว่าจะสนับสนุนเงินช่วยเหลือฉุกเฉินเพื่อฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย
อย่างไรก็ตาม บทเรียนจากภัยพิบัติในครั้งนี้ได้จุดประกายการถกเถียงเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติในอนาคต นักวิชาการและนักสิ่งแวดล้อมเรียกร้องให้รัฐบาลฝรั่งเศสและประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกเร่งดำเนินการเพื่อลดผลกระทบจากภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้พายุมีความรุนแรงมากขึ้น ในขณะเดียวกัน ทางการฝรั่งเศสกำลังพิจารณาปรับปรุงระบบเตือนภัยและโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินในอนาคต โดยเฉพาะการสร้างเขื่อนและระบบระบายน้ำที่ทันสมัย เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์น้ำท่วมรุนแรงเช่นนี้เกิดขึ้นอีก