

สรุปข่าว
องค์การอุตุนิยมวิทยาโลกของสหประชาชาติ หรือ ดับเบิลยูเอ็มโอ (WMO) ประเมินว่า มีโอกาสร้อยละ 60 ที่จะเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญอย่างชัดเจนภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ เอลนีโญ มักเกี่ยวข้องกับการเกิดสภาพอากาศร้อนเพิ่มขึ้นทั่วโลก ทำให้เกิดความแห้งแล้งในบางส่วนของโลก และมีบางส่วนเกิดฝนตกหนัก เอลนีโญเกิดขึ้นครั้งล่าสุดในปี 2561-2562 ปรากฏการณ์เอลนีโญ เกิดขึ้นเฉลี่ยทุก 2-7 ปี และโดยปกติมักกินเวลานาน 9-12 เดือน ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับอุณหภูมิเหนือผิวน้ำในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนกลางและตะวันออกอุ่นขึ้น โดยทั่วไปแล้ว จะเกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ตอนใต้ของอเมริกาใต้, ตอนใต้ของสหรัฐฯ, จะงอยแอฟริกา และเอเชียกลาง ขณะเดียวกัน ก็จะเกิดความแห้งแล้งรุนแรงในออสเตรเลีย, อินโดนีเซียและหลายพื้นที่ของเอเชียใต้ นับตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา โลกเผชิญกับปรากฏการณ์ "ลานีญา" ที่ยาวนานเป็นพิเศษ ที่เพิ่งจะสิ้นสุดลงในช่วงต้นปีนี้ สหประชาชาติ ระบุด้วยว่า ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาที่อากาศร้อนที่สุด นับตั้งแต่มีการบันทึกสถิติ ปรากฏการณ์ลานีญาที่เกิดขึ้น 3 ปี ทำให้อากาศเย็นลง เป็นตัวหยุดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกชั่วคราว หากไม่มีปรากฏการณ์ลานีญา คาดว่า ภาวะโลกร้อนอาจเลวร้ายมากกว่านี้ องค์การอุตุนิยมวิทยาโลกเตือนว่า การเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ จะทำให้อุณหภูมิโลกเพิ่มสูงขึ้นครั้งใหม่ และมีโอกาสที่อุณหภูมิจะพุ่งสูงทำสถิติใหม่ แต่ในขณะนี้ ยังไม่สามารถคาดการณ์ความแรงหรือระยะเวลาของปรากฏการณ์เอลนีโญได้ นี่เป็นสิ่งที่บรรดานักวิทยาศาสตร์พยายามออกมาเตือนถึงผลกระทบของภาวะโลกร้อน ที่ซึ่วมีสาเหตุมาจากการกระทำของมนุษย์ทั้งสิ้น และถ้าหากทั่วโลกยังไม่ช่วยกันควบคุมอุณหภูมิโลกไม่ให้สูงไปมากกว่านี้ ภัยพิบัติทางธรรมชาติอาจจะรุนแรงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในอนาคต
ที่มาข้อมูล : -