สรุปข่าว
นายประภัศร์พงษ์ นันทกิจพัฒนา ผู้จัดการกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด กล่าวว่า ภาพก่อนหน้านี้ตลาดหุ้นจีนเห็นการฟื้นตัวจากการที่มีรายงานว่าทางการจีนกำลังพิจารณารีไฟแนนซ์สินเชื่ออสังหา โดยครอบคลุมสินเชื่อรวมกว่า 5.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อช่วยเหลือภาคอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติม เป็นการลดต้นทุนการกู้ยืมและกระตุ้นการบริโภคด้วย อย่างไรก็ดี วานนี้ (2 ก.ย.) จีนมีการประกาศตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ ส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนล่าสุดวันนี้ (3 ก.ย.) ปรับลดลงกว่าร้อยละ 2
ส่วนแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย.นี้ที่จะลดดอกเบี้ยครั้งแรกจะมีผลต่อการโยกย้ายเงินลงทุนมาจีนหรือไม่นั้น มองว่าทิศทางเงินลงทุนเคลื่อนย้าย หรือ ฟันด์โฟลว์ที่จะออกจากสหรัฐนาจะเป็นบวกต่อกลุ่มประเทศ Emerging Market หรือ เศรษฐกิจของตลาดเกิดใหม่ แต่การไหลเข้ามายังเข้ามาในตลาดตลาดสาหนี้ก่อน
ล่าสุดไหลเข้ามาในตราสารหนี้จีนเป็นอันดับ 1 ในเอเชีย ตั้งแต่ต้นปีมาถึงปัจจุบัน ทำให้ยังไม่ได้ไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นเป็นสำคัญ เนื่องจากเศรษฐกิจยังอ่อนแอและยังมีปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์ บวกกับตลาดยังไม่วางใจกับนโยบายผลกระทบทางการค้าหลังการเลือกตั้งสหรัฐในช่วงเดือนพ.ย.ปีนี้ ดังนั้น ปีนี้จึงมองว่าฟันด์โฟลว์ส่วนใหญ่จะอยู่ในตลาดตราสารหนี้เป็นส่วนใหญ่ยังไม่เข้าตลาดหุ้น
อย่างไรก็ดี ในระยะต่อไปจีนจะมาดึงดูดฟันด์โฟลว์ได้คงต้องเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อหนุนการขยายตัวให้ชัดเจนก่อน ส่วนคำแนะนำการลงทุนพอร์ตหลักจิตตะ เวลธ์ยังคงคำแนะนำให้คงสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 70 กระจายความเสี่ยงในตราสารหนี้และหุ้นทั่วโลกอยู่ ส่วนการลงทุนในจีนนั้นเนื่องจากมูลค่าหุ้นลงมาต่ำจึงแนะนำให้ถือลงทุนราวร้อยละ 10-20 ตามระดับความเสี่ยง
ซึ่งการลงทุนในจีนและนำใน 2 แบบ คือ แบบแรก ถ้ารับความ้สี่ยงได้ปานกลางแนะนำให้ลงทุนหุ้นแวร์ลูที่ P/E ต่ำและมีการจ่ายปันผลที่สูงและรายได้มีการเติบโต ซึ่งเป็นหุ้นที่อยู่ในกลุ่มจะมีดาวน์ไซด์ต่ำ และถึงราคาหุ้นปรับลงก็ยังไมีปันผลที่คุ้มค่าต่อการลงทุน
และการลงทุนแบบที่ 2 สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง แนะนำให้ลงทุนในกลุ่มหุ้นเติบโต ที่จะขยายตัวไปกับแผนพัฒนาใหม่ของจีนที่มุ่งเทคโนโลยี สุขภาพ และอุตสาหกรรมกรีน ซึ่งหุ้นกลุ่มนี้ยังมีโอกาสเติบโตไปกับจีนในระยะกลางและระยะยาว
ที่มาข้อมูล : -