TNN เงินบาทเช้านี้เปิดตลาด ‘อ่อนค่า’ ที่ระดับ 36.97 บาทต่อดอลลาร์

TNN

Wealth

เงินบาทเช้านี้เปิดตลาด ‘อ่อนค่า’ ที่ระดับ 36.97 บาทต่อดอลลาร์

เงินบาทเช้านี้เปิดตลาด  ‘อ่อนค่า’  ที่ระดับ 36.97 บาทต่อดอลลาร์

เงินบาทเช้านี้เปิดตลาด ‘อ่อนค่า’ ที่ระดับ 36.97 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบวันนี้คาดอยู่ที่ระดับ 36.85 - 37.10 บาท/ดอลลาร์

วันนี้ ( 8 พ.ค. 67 )นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทวันนี้ ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 36.97 บาทต่อดอลลาร์ ‘อ่อนค่าลงเล็กน้อย’ จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 36.89 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.85-37.10 บาทต่อดอลลาร์นับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา ค่าเงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่าลง (แกว่งตัวในช่วง 36.79-36.97 บาทต่อดอลลาร์) ตามการทยอยแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ที่ได้แรงหนุนหลักมาจากการอ่อนค่าลงต่อเนื่องของเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ล่าสุดได้อ่อนค่าแตะระดับ 154.7 เยนต่อดอลลาร์


นอกจากนี้ เงินบาทยังเผชิญแรงกดดันเพิ่มเติมจากโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว หลังราคาทองคำยังขาดปัจจัยหนุนในช่วงนี้ ตามความกังวลสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่คลี่คลายลงบ้าง ส่วนการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ก็ทำให้ราคาทองคำ (Spot Gold) ยังคงแกว่งตัวแถวโซนแนวรับ 2,315 ดอลลาร์ต่อออนซ์


สำหรับ แนวโน้มค่าเงินบาท เราประเมินว่า การพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์อาจทำให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าลงได้บ้าง โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่เงินบาทเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าจากโฟลว์ธุรกรรมจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนต่างชาติ รวมถึงโฟลว์ธุรกรรมซื้อสินค้าโภคภัณฑ์ ทั้งทองคำและน้ำมันดิบ หลังราคาทองคำ และน้ำมันดิบ ต่างก็ทยอยปรับตัวลดลงเข้าสู่โซนแนวรับในระยะสั้น


อย่างไรก็ดี เราประเมินว่า การอ่อนค่าของเงินบาทอาจค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากผู้เล่นในตลาดบางส่วนต่างก็รอทยอยขายเงินดอลลาร์ในช่วงโซน 37 บาทต่อดอลลาร์ (หากอ่อนค่าทะลุโซนดังกล่าว ก็อาจติดแถวโซน 37.10 บาทต่อดอลลาร์ได้เช่นกัน) นอกจากนี้ เราคงมองว่า นักลงทุนต่างชาติก็อาจทยอยกลับเข้าซื้อสินทรัพย์ไทยในช่วงนี้เพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยลดทอนผลกระทบจากโฟลว์ธุรกรรมจ่ายเงินปันผล ได้บ้าง


อนึ่ง เรามองว่า ผู้เล่นในตลาดควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้ผลการประชุมธนาคารกลางสวีเดน (Riksbank) ในช่วงเวลาราว 14.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ที่แม้ว่าในอดีต ตลาดอาจไม่ได้ตามผลการประชุม Riksbank มากนัก แต่ในรอบนี้ หาก Riksbank ลดดอกเบี้ยตามคาด พร้อมส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง ก็อาจกดดันบรรดาสกุลเงินฝั่งยุโรป และยิ่งหนุนให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นได้


เราคงมุมมองเดิมว่า เงินบาทยังคงเคลื่อนไหวผันผวนสูง ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงไปมาของปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อทิศทางค่าเงินบาท ทำให้ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ในการปิดความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งการใช้เครื่องมือเช่น Options หรือ สกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน


ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับบรรดาสกุลเงินหลัก หนุนโดยการอ่อนค่าลงต่อเนื่องของเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ที่ล่าสุด กลับมาอ่อนค่าทดสอบโซน 154.8 เยนต่อดอลลาร์ เนื่องจากผู้เล่นในตลาดส่วนใหญ่ต่างมองว่า ปัจจัยพื้นฐานที่กดดันให้เงินเยนอ่อนค่าลงยังไม่เปลี่ยน และยังมีความเสี่ยงที่อัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้าอาจยังคงสูงอยู่ ทำให้ผู้เล่นในตลาดกลับมากังวลแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดได้อีกครั้ง ทำให้โดยรวมดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 105.4 จุด อีกครั้ง (แกว่งตัวในกรอบ 105-105.4 จุด) ในส่วนของราคาทองคำ ปัจจัยที่เคยหนุนราคาทองคำ อย่างความกังวลสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ได้ทยอยคลี่คลายลง 


ขณะที่เงินดอลลาร์ ก็กลับมาแข็งค่าขึ้น ส่งผลให้ ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย.) ยังไม่สามารถผ่านโซนแนวต้าน 2,330 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ไปได้ ก่อนที่จะย่อตัวลงสู่โซน 2,320 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งผู้เล่นในตลาดบางส่วนได้ทยอยเข้าซื้อทองคำในจังหวะย่อตัวลงและโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนกดดันให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าลงบ้าง


ภาพจาก: TNN ONLINE






ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง