

สรุปข่าว
วันนี้ (16 ม.ค.63) องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก หรือดับเบิลยูเอ็มโอ (WMO) แถลงเมื่อวันพุธว่า เมื่อปีที่แล้ว เป็นปีที่ร้อนที่สุดเป็นอันดับ 2 ตั้งแต่เริ่มบันทึกสถิติ และดูเหมือนว่า ความร้อนจะทำให้เกิดสภาพอากาศวิกฤตแปรปรวนมากขึ้นในปี 2563 และปีต่อๆ ไป เช่น การเกิดสถานการณ์ไฟป่าในออสเตรเลีย โดยสถิติจากดับเบิลยูเอ็มโอ ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ รวบรวมจากฐานข้อมูลทั้งจากองค์การบริหารการบินและอวกาศสหรัฐ หรือนาซา และสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของสหราชอาณาจักร์ ซึ่งข้อมูลแสดงให้เห็นว่า อุณหภูมิโลกเฉลี่ย ในปี 2562 สูงกว่าระดับช่วงก่อนยุคอุตสาหกรรม 1.1 องศาเซลเซียส
บรรดานักวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลให้เกิดสภาพอากาศเลวร้ายในปี 2562 เช่น คลื่นความร้อนในยุโรป และเฮอริเคน “ดอเรียน” พัดถล่มหมู่บาฮามาสในเดือนกันยายน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 50 คน
รัฐบาลต่างๆ ทั่วโลกเห็นชอบความตกลงปารีส 2558 กำหนดมาตรการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ตั้งแต่ พ.ศ. 2563 เพื่อลดภาวะโลกร้อน พยายามจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิ 1.5 องศาเซลเซียสจากระดับอุณหภูมิช่วงก่อนยุคอุตสาหกรรม หลังคาดว่าภาวะโลกร้อนจะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่เลวร้ายรุนแรง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตบนโลก
ดับเบิลยูเอ็มโอ แถลงก่อนหน้านี้ว่า เป็นไปได้ที่อุณหภูมิโลกอาจพุ่งสูงถึง 3-5 องศาเซลเซียส หากไม่ช่วยกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นสถิติใหม่ในปี 2561
อย่างไรก็ตาม ปีที่ร้อนที่สุดคือปี 2559 อุณหภูมิเฉลี่ยสูงกว่าช่วงก่อนยุคอุตสาหกรรม 1.2 องศาเซลเซียส เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญ โดยโอมาร์ บัดดูร์
ขณะที่ นักวิทยาศาสตร์ของดับเบิลยูเอ็มโอ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในอนาคตจะเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญที่อุณหภูมิจะร้อนมากกว่าที่เคยเกิดขึ้น ซึ่งจะทำให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้นอีก
เกาะติดข่าวที่นี่website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand
ที่มาข้อมูล : -