ทรัมป์เผยเอกสารคดีลอบสังหาร "จอห์น เอฟ. เคนเนดี" วันนี้

การเผยแพร่เอกสารคดีลอบสังหารอดีตประธานาธิบดี จอห์น เอฟ. เคนเนดี ประธานาธิบดีคนที่ 35 ของสหรัฐฯ ในปี 1963 จำนวน 80,000 หน้าในวันนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่ทรัมป์ลงนามคำสั่งถอดสถานะชั้นความลับของเอกสารรัฐบาล ที่เกี่ยวข้องกับการลอบสังหารอดีตประธานาธิบดี จอห์น เอฟ. เคนเนดี หรือ JFK , วุฒิสมาชิกโรเบิร์ต เคนเนดี และ นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ เมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา 

เป็นไปตามที่ทรัมป์เคยให้คำมั่นไว้ในช่วงหาเสียงว่า จะเผยแพร่เอกสารข่าวกรองและเอกสารต่าง ๆ ที่เป็นความลับเกี่ยวกับการลอบสังหาร JFK ประธานาธิบดีคนที่ 35 ของสหรัฐฯ ในปี 1963 หลังจากพยายามเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวระหว่างเป็นประธานาธิบดีสมัยแรก แต่ถูกแรงกดดันจากสำนักข่าวกรองกลาง หรือ CIA และสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ หรือ FBI เกี่ยวกับเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ จึงยอมล้มเลิกไป

ทรัมป์เผยเอกสารคดีลอบสังหาร "จอห์น เอฟ. เคนเนดี" วันนี้

สรุปข่าว

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เตรียมเผยเอกสารคดีลอบสังหารอดีตประธานาธิบดี จอห์น เอฟ. เคนเนดี ประธานาธิบดีคนที่ 35 ของสหรัฐฯ ในปี 1963 จำนวน 80,000 หน้าในวันนี้ ตามที่เคยให้คำมั่นว่าจะเผยแพร่เอกสารข่าวกรองและเอกสารต่าง ๆ ที่เป็นความลับเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว

การลอบสังหารบุคคลสำคัญทั้ง 3 ถือเป็นเหตุการณ์ที่สั่นสะเทือนประวัติศาสตร์สหรัฐฯ และยังคงเป็นประเด็นที่มีการตั้งคำถามและข้อสงสัยจากสาธารณชนอย่างต่อเนื่อง ทรัมป์จึงสัญญาตอนหาเสียงว่าเขาจะเปิดเผยเอกสาร ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่คนอเมริกันให้ความสนใจอย่างกว้างขวาง เพื่อสร้างความโปร่งใส โดยเฉพาะกรณีการลอบสังหาร JFK ที่ยังคงเป็นเรื่องที่น่าสนใจในสหรัฐฯ แม้จะมีการอ้างว่าเขาถูกยิงโดยมือปืนเพียงคนเดียว และหน่วยงานรัฐบาลและกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ยังคงยืนยันว่าสมมติฐานนี้เป็นเรื่องจริง แต่ผลสำรวจระบุว่าคนอเมริกันหลายคนยังคงเชื่อว่าการตายของเขามีความเกี่ยวข้องกับการสมคบคิดที่กว้างขวาง

โดยหลายฝ่ายเชื่อว่า CIA มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของ JFK ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่หน่วยงานดังกล่าวได้ปฏิเสธว่าเป็นข้อมูลที่ไม่มีมูลความจริง อีกทั้งเชื่อว่า ลี ฮาร์วีย์ ออสวอลด์ ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นมือปืนและถูกจับกุมหลังจากเหตุการณ์ไม่กี่ชั่วโมง และถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าฆ่า JFK แต่นักวิจารณ์บางคนเชื่อว่า ออสวอลด์อาจไม่ได้ทำงานนี้เพียงลำพัง แต่อาจมีบุคคลหรือองค์กรอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น CIA กลุ่มมาเฟีย หรือการต่อต้านการปฏิรูปทางการเมืองของรัฐบาล


ที่มาข้อมูล : Reuters

ที่มารูปภาพ : Reuters