
คริสโตเฟอร์ ไซเร็ก หัวหน้าฝ่ายเจ้าหน้าที่ของ VA ได้ส่งบันทึกไปยังเจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยงานเมื่อวันอังคาร (4 มี.ค.) โดยระบุว่า เป้าหมายคือการลดจำนวนพนักงานให้กลับไปอยู่ที่ระดับปี 2019 ซึ่งมีพนักงานน้อยกว่า 400,000 คน ซึ่งหมายความว่าจะต้องลดพนักงานลงประมาณ 82,000 คน

สรุปข่าว
บันทึกดังกล่าวยังสั่งให้เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานทำงานร่วมกับแผนกประสิทธิภาพรัฐบาลของ อีลอน มัสก์ เพื่อดำเนินการลดจำนวนพนักงาน โดยระบุว่าเป้าหมายคือ ‘การกำจัดความสิ้นเปลือง’ และ ‘การเพิ่มประสิทธิภาพของแรงงาน’
การลดพนักงานที่วางแผนไว้ที่ VA นี้มีขนาดใหญ่กว่าการตัดลดในหน่วยงานรัฐบาลอื่น ๆ และจะกระทบกับกระทรวงที่ดูแลกลุ่มคนที่เป็นที่รักมากที่สุดในสหรัฐฯ นั่นคือ ทหารผ่านศึก
กระทรวงกิจการทหารผ่านศึกให้บริการสวัสดิการและการช่วยเหลือทางการแพทย์จำนวนมากแก่ทหารผ่านศึก และผู้วิจารณ์แผนดังกล่าวมองว่า การตัดลดจะมีผลกระทบต่อการดูแลทหารผ่านศึกเหล่านี้อย่างมาก ซึ่ง เอเวอเร็ตต์ เคลลีย์ หัวหน้าสหภาพพนักงานรัฐบาลอเมริกัน (AFGE) ซึ่งเป็นตัวแทนของพนักงาน VA จำนวน 311,000 คน กล่าวว่า ทหารผ่านศึกและครอบครัวของพวกเขาจะต้องทนทุกข์โดยไม่จำเป็น
มัสก์และทีมของเขาได้รับมอบหมายจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ให้ตัดขนาดและค่าใช้จ่ายของข้าราชการรัฐบาลกลางจนถึงปัจจุบัน มีพนักงานประมาณ 25,000 คน จากทั่วทั้งรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ถูกปลดออก และอีก 75,000 คน ที่รับเงินชดเชยจากจำนวนข้าราชการพลเรือน 2.3 ล้านคน
แพตตี้ เมอเรย์ ประธานคณะกรรมการจัดสรรงบประมาณของวุฒิสภาพรรคเดโมแครตกล่าวว่า การปรับลดจำนวนคนทำงานครั้งนี้เป็นการขยายความพยายามของการโจมตีเต็มรูปแบบโดยไม่ยั้งมือต่อทหารผ่านศึกจากทรัมป์และมัสก์ ซึ่งจะทำให้สวัสดิการด้านสุขภาพของทหารผ่านศึกตกอยู่ในอันตรายอย่างมาก
เจอร์รี โมแรน ประธานคณะกรรมการกิจการทหารผ่านศึกของวุฒิสภาพรรครีพับลิกัน ระบุว่าเขาไม่พอใจเต็มที่กับวิธีการที่การตัดลดพนักงานกำลังดำเนินการและเรียกร้องให้ VA ทำงานร่วมกับรัฐสภาเพื่อออกกฎหมายเพื่อการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็น
อันนา เคลลีย์ รองโฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า ทรัมป์จะรักษาสวัสดิการของทหารผ่านศึก แต่จะไม่ยอมรับระบบราชการที่ล้าสมัยและฟุ่มเฟือยที่มีอยู่ในหน่วยงานนี้

พิชญาภา สูตะบุตร