สิงคโปร์จะลงโทษมิจฉาชีพด้วยการ "เฆี่ยน" ตั้งเป้ากวาดล้างภายในปีนี้

ซุน ซือลิง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย การพัฒนาสังคมและครอบครัวของสิงคโปร์กล่าวเมื่อวานนี้ (4 มีนาคม) ว่าสิงคโปร์จะพิจารณากำหนดบทลงโทษ “เฆี่ยน” กับกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวงประชาชนที่กระทำความผิดร้ายแรง หลังจากสถิติใหม่ของสำนักงานตำรวจสิงคโปร์ที่เปิดเผยว่าชาวสิงคโปร์ทั่วประเทศต้องสูญเสียทรัพย์สินจากการถูกหลอกลวงโดยกลุ่มมิจฉาชีพไปมูลค่ารวมกว่า 821 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2 หมื่น 7 พันล้านบาทในปี 2024 ซึ่งเพิ่มขึ้น 70 เปอร์เซ็นต์จากเมื่อปีก่อนหน้า


ซุน ซือลิง กล่าวว่าปีที่แล้ว มีคดีมิจฉาชีพหลอกเงินมากกว่า 8,000 คดี ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบสวน ซึ่งในจำนวนนี้มี 660 คดี ที่ผู้ต้องหาถูกลงโทษจำคุก และแม้ว่าจะมีการกำหนดโทษใหม่ออกมา แต่ทางการสิงคโปร์ยืนยันว่าโทษจำคุกจะยังมีการบังคับใช้อยู่ โดยจะพิจารณาโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 19 เดือน


อย่างไรก็ตาม สิงคโปร์ตั้งเป้าจะกวาดล้างกลุ่มมิจฉาชีพหลวกลวงทรัพย์สินประชาชนให้หมดไปภายในปีนี้ โดยให้เหตุผลว่ากลุ่มมิจฉาชีพที่พบในประเทศเป็นเหมือนการปูทางให้มิจฉาชีพจากต่างประเทศฉวยโอกาสนี้เข้ามาฟอกเงินและนำเงินออกจากสิงคโปร์ไปอย่างผิดกฎหมาย

สิงคโปร์จะลงโทษมิจฉาชีพด้วยการ "เฆี่ยน" ตั้งเป้ากวาดล้างภายในปีนี้

สรุปข่าว

สิงคโปร์เตรียมใช้บทลงโทษด้วยการ “เฆี่ยน” กับกลุ่มมิจฉาชีพหลอกเงินประชาชน หลังพบว่ามูลค่าความเสียหายในประเทศเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์


ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ ตัน วู เหมิง สมาชิกรัฐสภาของสิงคโปร์ตั้งคำถามไปถึงรัฐบาลว่าควรมีการออกบทลงโทษเพิ่ม อย่างการเฆี่ยน มาใช้กับมิจฉาชีพในกรณีที่กระทำความผิดร้ายแรง โดยเขากล่าวว่ารัฐบาลควรส่งสัญญาณอย่างชัดเจนไปถึงมิจฉาชีพและใครก็ตามที่สนับสนุนพวกเขาให้เกิดความเกรงกลัว ว่าหากทำร้ายประชาชนของสิงคโปร์ พวกเขาจะต้องชดใช้และสิงคโปร์จะสอนบทเรียนเหล่านี้กับพวกมิจฉาชีพด้วย

ที่มาข้อมูล : CNA / South China Morning Post

ที่มารูปภาพ : Reuters

avatar

Natnicha Nijpol
(Natnicha)