
พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ของเมียนมา เดินทางถึงกรุงมอสโกแล้ว ตามคำเชิญจากประธานาธิบดีวลาดเมียร์ ปูติน และได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นในวันนี้ (4 มีนาคม) จากเซอร์เกย์ ชอยกู เลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งรัสเซีย ก่อนที่จะมีกำหนดการณ์หารือร่วมกับประธานาธิบดีปูติน และรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของรัสเซียด้วย เพื่อหารือเรื่องความสัมพันธ์ทวิภาคี, ประเด็นเศรษฐกิจ และความมั่นคง เพื่อยกระดับความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งมากขึ้น
ด้านนายกรัฐมนตรีมิคาอิล มิชูติน กล่าวกับผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาในวันนี้ว่า รัสเซียมองเห็นแนวโน้มที่ดีในการขยายความร่วมมือในหลายด้าน
"แม้จะมีการคว่ำบาตรที่ไม่ชอบธรรมต่อรัสเซียและเมียนมา ความร่วมมือด้านการค้าและเศรษฐกิจของเราจะยังคงพัฒนาอย่างประสบความสำเร็จ และการค้าระหว่างกันก็จะเติบโตขึ้นด้วย"

สรุปข่าว
นี่เป็นหนึ่งในการเดินทางต่างประเทศของมิน อ่อง หล่าย ที่ไม่ค่อยเดินทางออกนอกประเทศมากนัก ทำให้การเดินทางครั้งนี้ของผู้นำการทหารเมียนมาในวัย 68 ปี ถูกจับตามองเป็นอย่างมาก
การเดินทางเยือนรัสเซียครั้งนี้ เป็นครั้งที่. 4 ของมิน อ่อง หล่าย่ นับตั้งแต่ยึดอำนาจเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2021 จากรัฐบาลของนางออง ซาน ซูจี โดยก่อนหน้านี้เคยหารือร่วมกับประธานาธิบดีของรัสเซียนอกรอบในที่ประชุม Eastern Economic Forum ที่จัดขึ้นในเมืองวลาดิวอสตอก ทางตะวันออกของรัสเซีย เมื่อเดือนกันยายน 2022
สำนักข่าวอิรวดีรายงานว่า รัสเซีย และเมียนมา มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันมากขึ้น เมื่อรัสเซียขยายความร่วมมือทั้งด้านการค้า, การลงทุน, การศึกษา, ศาสนา, สังคม การสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ซึ่งรัฐบาลเมียนมาชี้ว่า จะช่วยเรื่องไฟฟ้าดับในประเทศได้ รวมถึงการซ้อมรบร่วมทางการทหาร อีกทั้งรัฐบาลทหารเมียนมายังวางแผนที่จะเปิดทางให้แรงงานเมียนมาสามารถเดินทางไปทำงานที่ประเทศรัสเซียได้ด้วย
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แม็กซิม เรเวตนิคอฟ รัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาเศรษฐกิจของรัสเซีย ได้ลงนามข้อตกลงร่วมกับข่าน จอ รัฐมนตรีกระทรวงการลงทุนของเมียนมา เพื่อเริ่มต้นการโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและท่าเรือในเขตตะนาวศรีที่หยุดชะงักอยู่ ซึ่งเมื่อปีก่อน มิน อ่อง หล่ายเคยประกาศเอาไว้ว่า ต้องการให้รัสเซียเข้าช่วยเหลือผลักดันโครงการทวาย เพื่อให้ระวางเรือขยายได้ถึง 200,000 ตันด้วย