ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ กล่าววานนี้ (21 กุมภาพันธ์) ว่า ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสและนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ของสหราชอาณาจักร ไม่ได้ทำอะไรที่จะช่วยจบสงครามในยูเครน
ทรัมป์กล่าวก่อนหน้าที่ 2 ผู้นำสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสจะเยือนสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า
การเยือนสหรัฐฯ ของ 2 ผู้นำยุโรป เกิดขึ้นท่ามกลางความหวั่นกลัวของยุโรปและยูเครนว่า อาจถูกกันออกจากการเจรจาสันติภาพยูเครนระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซีย
สรุปข่าว
เมื่อต้นสัปดาห์นี้ สตาร์เมอร์กล่าวว่า สหราชอาณาจักรพร้อมและเต็มใจที่จะส่งทหารรักษาสันติภาพไปยังยูเครน เพื่อช่วยรับประกันความมั่นคงให้แก่ยูเครน เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงสันติภาพถ้าหากบรรลุแล้ว นับเป็นผู้นำยุโรปชาติเดียวที่ประกาศพร้อมส่งทหารรักษาสันติภาพไปยูเครนหากสงครามยุติ แต่ทางฝ่ายผู้นำยุโรปนั้นปิดโอกาสการเปิดเจรจากับรัสเซีย
ในการให้สัมภาษณ์ฟ็อกซ์ นิวส์เมื่อวานนี้ (21 กุมภาพันธ์) ทรัมป์กล่าวในหลายประเด็นเกี่ยวกับความขัดแย้งยูเครนว่า รัสเซียกับยูเครนจะไม่ต้องการเริ่มเปิดเจรจาสันติภาพ ถ้าหากทรัมป์ไม่ตัดสินใเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยตนเอง
เขายังคงตำหนิประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครนว่า เขาติดตามดูเซเลนสกีมานานหลายปีแล้ว เห็นเมืองต่าง ๆ ในยูเครนถูกทำลายไปเรื่อย ๆ ชาวยูเครนถูกสังหาร ทหารยูเครนเสียชีวิตจำนวนมาก แต่เซเลนสกีกลับเจรจาโดยไม่มีไพ่ในมือ
ก่อนหน้านี้ทรัมป์กล่าวมาหลายครั้งว่า เซเลนสกีสมควรถูกโทษว่า ล้มเหลวในการป้องกันไม่ให้เกิดสงครามในยูเครนมาตั้งแต่แรก ระบุว่า รัสเซียเป็นประเทศที่สามารถเจรจาไม่ให้บุกยูเครนได้
ผู้สัมภาษณ์ถามถึงการปราศจากยูเครนในการหารือครั้งแรกระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซียที่ซาอุดิอาระเบียในสัปดาห์นี้ ทรัมป์ระบุว่า รัสเซียพบว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะตกลงกับเซเลนสกีได้ ทรัมป์เชื่อว่ารัสเซียจริงใจที่ต้องการบรรลุข้อตกลงจบสงคราม แต่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินไม่จำเป็นต้องทำข้อตกลง