
ศาลในกรุงบัวโนสไอเรสของอาร์เจนตินา ออกหมายจับ พล.อ.อาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายทหารและพลเรือน ซึ่งรวมถึง ออง ซาน ซูจี อดีตผู้นำรัฐบาลพลเรือนและเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติต่อชาวโรฮิงญา ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังกลุ่มสนับสนุนชาวโรฮิงญายื่นฟ้องข้อกล่าวหาดังกล่าวต่อศาลอาร์เจนตินา เมื่อปี 2019 ภายใต้หลักการเขตอำนาจศาลสากล ซึ่งกำหนดไว้ว่าประเทศต่าง ๆ สามารถดำเนินคดีอาชญากรรมที่เป็นความผิดร้ายแรงได้ โดยไม่คำนึงถึงสถานที่เกิดเหตุ เช่น การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ หรืออาชญากรรมสงคราม
ผู้พิพากษาอาร์เจนตินา ระบุว่า ข้อกล่าวหาที่ระบุในคำฟ้อง ถือเป็นอาชญากรรมที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ได้รับการยอมรับในตราสารทางกฎหมายอาญาระหว่างประเทศต่าง ๆ และยังรวมถึงอาชญากรรมที่เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ เช่น การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ซึ่งกระทำโดยผู้มีอำนาจทางการเมืองและทหารที่มีอำนาจในประเทศนั้น
ด้านซอ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมาออกมาตอบโต้ทางการอาร์เจนตินาว่า รู้จักเมียนมาดีแล้วหรือไม่ พร้อมทั้งระบุว่า รัฐบาลเมียนมารู้จักอาร์เจนตินาเป็นอย่างดี และแนะนำให้อาร์เจนตินาแต่งตั้งผู้พิพากษาของตนให้ครบทุกตำแหน่งเสียก่อน ก่อนที่จะมาวิพากษ์วิจารณ์เมียนมา หลังมีรายงานเมื่อเดือนธันวาคมชี้ว่า รัฐบาลอาร์เจนตินาจำเป็นต้องแต่งตั้งผู้พิพากษาแทนตำแหน่งที่ว่างลงถึง 150 คน
กองทัพเมียนมาเริ่มเปิดปฏิบัติการกวาดล้างชาวโรฮิงญา เมื่อปี 2017 ซึ่งรวมถึงการสังหารหมู่ การใช้ความรุนแรงทางเพศและเผาทำลายบ้านเรือน ส่งผลให้ชาวโรฮิงญากว่า 700,000 คนต้องอพยพหนีเอาชีวิตรอดไปประเทศเพื่อนบ้าน โดยปัจจุบันศาลยุติธรรมระหว่างประเทศอยู่ระหว่างพิจารณาออกหมายจับผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา

สรุปข่าว

Natnicha Nijpol
(Natnicha)