Riviera of the Middle East…
ริเวียร์รา ที่หลายคนรู้จักก็อาจจะนึกถึง “เฟรนซ์ ริเวียรา” หรือไม่ก็ “อิตาเลียน ริเวียรา” ในความหมายแล้ว ริเวียรา (Riviera) เป็นคำในภาษาอิตาลี แปลว่าแนวชายฝั่ง หรือ ท่าน้ำ แต่ในเชิงภูมิศาสตร์ริเวียราหมายถึงแนวชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทางตอนใต้ของยุโรป ที่มีอากาศอบอุ่นและแสงแดดตลอดทั้งปีร่วมกับน้ำทะเลสีฟ้า-น้ำเงินสวยงามจึงทำให้มันกลายเป็นปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก
แต่กับ “ฉนวนกาซา” พื้นที่พิพาทที่กลายเป็นเขตสงครามดูจะห่างจากคำว่าริเวียราอยู่พอสมควร ที่จริงแล้วก่อนที่อิสราเอลและฮามาสจะเปิดฉากโจมตีกันในวันที่ 7 ตุลาคม 2023 ฉนวนกาซามีศักยภาพที่จะเป็นริเวียร์ราแห่งตะวันออกกลางได้ด้วยที่ตั้งที่มีแนวชายฝั่งติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน หาดทรายที่งดงามและแสงแดดที่อบอุ่นไม่ต่างกับริเวียราในทวีปยุโรป สำนักข่าวต่างประเทศหลายเจ้าเคยเผยแพร่ภาพผู้คนท้องถิ่นจำนวนมากออกมาใช้เวลาว่างไปกับการเพลิดเพลินริมทะเลและทำกิจกรรมริมหาด สำนักข่าวเดลิเมล์รายงานว่าครั้งหนึ่งฉนวนกาซาเคยมีอินฟลูเอนเซอร์และนักท่องเที่ยวเดินทางมาชายหาดของฉนวนกาซาและพวกเขาก็สนุกสนานไปกับการว่ายน้ำ ดำน้ำ หรือ แม้แต่ล่องเรือ จนถึงกับมีนักท่องเที่ยวให้คะแนนความประทับใจชายหาดของฉนวนกาซาบน Google อีกด้วย
สรุปข่าว
แต่ ริเวียราแห่งตะวันออกกลาง ที่ทรัมป์ใฝ่ฝันกลับเต็มไปด้วย “ซากปรักหักพัง” จากการโจมตีระหว่างอิสราเอลและฮามาสตลอดหลายสิบเดือนที่ผ่านมา สำนักข่าว BBC รายงานว่าจำนวนซากปรักหักพังทั่วฉนวนกาซามีมากถึง 50,773,496 ตัน หรือคิดเป็น 50,773,496,000 กิโลกรัม โดย 80 เปอร์เซ็นต์ของความเสียหายเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกเชิงพาณิชย์ที่จำเป็นหากทรัมป์ต้องการสร้างให้กาซาขึ้นมาใหม่และทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวตากอากาศ จะมีก็แต่ “น้ำทะเล” สีน้ำเงินสวยงาม ที่อาจเป็นเพียงอย่างเดียวบริเวณชายหาดที่ยังรอดจากการโจมตี
ฉนวนกาซายังมี “คนไร้บ้าน” ที่ลี้ภัยสงครามอีกถึง 1,900,000 คน หรือคิดเป็น 90 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนชาวกาซาทั้งหมดที่ยังรอความช่วยเหลือและการจัดหาที่อยู่อาศัยใหม่ ไม่เพียงเท่านี้แต่ก่อนจะเปลี่ยนให้กาซาเป็น ริเวียราแห่งตะวันออกกลาง ทรัมป์จะต้องหาทางออกให้กับปัญหาความยากจนที่เกิดขึ้นหลังสงครามที่ทำให้ราคาอาหารและสินค้าแพงขึ้นอย่างก้าวกระโดดที่ไม่ใช่ชาวบ้านทุกคนจะสามารถเข้าถึงได้
ไม่เพียงเท่านี้สถานที่ท่องเที่ยวอย่างริเวียรายังต้องการเครือข่ายถนนสำหรับการสัญจรของนักท่องเที่ยวด้วย แต่เครือข่ายถนนในฉนวนกาซาถูกทำลายไปแล้ว 68 เปอร์เซ็นต์ การซ่อมแซมไม่ว่าจะตัดถนนใหม่หรือสร้างเครือข่ายถนนใหม่ไม่สามารถทำได้ง่าย ๆ และต้องใช้เวลาในการจัดวาง
ทั้งนี้ การก่อสร้างกาซาขึ้นมาใหม่สิ่งแรกที่ต้องทำคือการจัดการซากปรักหักพังจำนวนมหาศาลที่มากกว่าขนาดของพีระมิดแห่งกีซาของอียิปต์ 12 เท่า ซึ่งโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ หรือ UNEP คาดว่าว่าต้องใช้เวลานาน 21 ปี ถึงจะสามารถจัดการออกได้ทั้งหมด
แล้วคุณคิดว่า “ฉนวนกาซา” จะสามารถสร้างใหม่จนกลายเป็น “ริเวียราแห่งตะวันออกกลาง” ได้หรือไม่ ?
ที่มาข้อมูล : BBC / Aljazeera / Daily Mail
ที่มารูปภาพ : Reuters
patcharee chanraem
(patcharee.chanraem)