รัสเซียเปิดตัวหนังสือเรียนเล่มใหม่เกี่ยวกับสงครามในยูเครน

รัสเซียเปิดตัวนักสือเรียนเล่มใหม่ในกรุงมอสโกเมื่อวานนี้ (27 มกราคมเป็นการเปรียบเทียบสงครามของรัสเซียในยูเครน กับการต่อสู้ของสหภาพโซเวียตกับกองทัพนาซี และระบุว่า รัสเซีย "ถูกบังคับให้ส่งทหารเข้าไปปฏิบัติการในยูเครน 


ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กล่าวว่า สงครามครั้งนี้ ซึ่งรัสเซียเรียกอย่างเป็นทางการว่าเป็น "ปฏิบัติการพิเศษทางทหารเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากแต่จำเป็นกับยูเครน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตกและองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต สงครามครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้เพื่อการดำรงอยู่ที่กว้างขึ้นกับชาติตะวันตกที่เสื่อมโทรม ซึ่งพยายามทำลายและแบ่งแยกรัสเซีย


ทางด้านยูเครนและพันธมิตรตะวันตก กลับบอกว่า รัสเซียกำลังทำสงครามอย่างโหดร้ายและไม่มีการยั่วยุ เพียงเพื่อยึดดินแดนเท่านั้น


หนังสือ "ประวัติศาสตร์ด้านการทหารของรัสเซียทั้ง 3 เล่มได้รับการแก้ไขโดยวลาดิเมียร์ เมดินสกี ผู้ช่วยของปูติน ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนที่จัดการเจรจาสันติภาพกับยูเครนในปี 2565 ซึ่งเป็นช่วงต้นสงคราม แต่ไม่ประสบความสำเร็จ และยังเป็นผู้ร่วมเขียนตำราประวัติศาสตร์หลักของรัสเซียอีกด้วย


หนังสือเล่มที่ 3 ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะถูกผู้นำของยูเครนมองว่าเป็นเพียงการโฆษณาชวนเชื่อ ออกแบบมาเพื่อสอนให้กับเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป ซึ่งเนื้อหาในหนังสืออธิบายถึงเหตุผลว่า ทำไมเครมลินเชื่อว่าสงครามดังกล่าวเริ่มต้นขึ้น และการต่อสู้เกิดขึ้นอย่างไร เน้นย้ำถึงสิ่งที่รัสเซียถือว่าเป็นเหตุการณ์ความกล้าหาญในสนามรบ และระบุว่ากองทัพรัสเซียสมัยใหม่บางครั้งใช้เทคนิคที่กองทัพโซเวียตเคยใช้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองอย่างไร


ในบทที่ชื่อว่า "ความเป็นมืออาชีพ ความไม่ย่อท้อ และความกล้าหาญกองกำลังรัสเซียในปฏิบัติการพิเศษทางทหารหนังสือเล่มนี้บอกกับเด็กนักเรียนว่า รัสเซีย "ถูกบังคับให้ส่งกองกำลังเข้าไปในยูเครนในปี 2565 และระบุด้วยว่า ชาติตะวันตกเพิกเฉยต่อข้อกังวลด้านความมั่นคงของรัสเซียมานานหลายปี โดยอ้างอิงถึงการขยายตัวของพันธมิตรทางทหารของนาโตไปทางยุโรปตะวันออก และหนังสือบรรยายว่า มีการโค่นล้มประธานาธิบดีของยูเครนที่เป็นมิตรกับรัสเซียโดยได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตกในปี 2557 ซึ่งส่งผลให้ยูเครนกลายเป็น "ที่มั่นต่อต้านรัสเซียที่ก้าวร้าว"

รัสเซียเปิดตัวหนังสือเรียนเล่มใหม่เกี่ยวกับสงครามในยูเครน

สรุปข่าว

ที่มาข้อมูล : ถัง

ที่มารูปภาพ : Reuters