
ผลสำรวจจากสมาคมสัตวแพทย์ในอเมริกา แสดงให้เห็นว่าในสหรัฐฯ มีครอบครัวประมาณ 45.5% เลี้ยงสุนัข และครอบครัว 32.1% เลี้ยงแมว ซึ่งมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นในปีต่อ ๆ ไป เพราะคนรุ่นใหม่ หรือคน Gen Z มีแนวโน้มจะเลี้ยงสัตว์เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากคนรุ่นใหม่มีลูกน้อยลง จึงหันมาเลี้ยงสัตว์แทนการมีลูก

สรุปข่าว
นับตั้งแต่ปี 2018 คนหนุ่มสาวในสหรัฐฯ ที่บอกว่าตัวเองไม่มีแผนจะมีลูก เพิ่มสูงขึ้นจาก 37% เป็น 47% ในปี 2023 ซึ่งผลสำรวจจากศูนย์วิจัย Pew ระบุว่า คนที่ตอบแบบสอบถาม 36% ให้เหตุผลว่าสาเหตุที่ไม่อยากมีลูก เพราะการเลี้ยงลูกมีค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป และยังมีสาเหตุอื่น เช่น กังวลเรื่องความรุนแรงในสังคม การอยากมีเวลาไปทำอะไรอย่างอื่นมากกว่า และบางคนก็บอกว่าไม่ได้มีเหตุผลอะไร แต่คิดว่าการมีลูกไม่ใช่เรื่องจำเป็นในสังคมยุคนี้แล้ว ซึ่งการเลี้ยงสัตว์กลายเป็นทางเลือกใหม่ ที่ทำให้คนหนุ่มสาวได้ลิ้มรสชาติและความรับผิดชอบของการเป็นพ่อแม่ ที่ต้องดูแลลูกที่เป็นสัตว์เลี้ยง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าและมีความเสี่ยงน้อยกว่าการเลี้ยงลูกที่เป็นคน
ด้วยสาเหตุนี้ที่มีคนเลี้ยงสัตว์มากขึ้น ทำให้สัตวแพทย์กลายเป็นอาชีพที่มาแรงที่สุดในสหรัฐฯ ซึ่งเว็บไซต์หางานในสหรัฐฯ Indeed ระบุว่าสัตวแพทย์ในสหรัฐฯ มีรายต่อปีสูงถึงปีละ 139,999 ดอลลาร์ หรือประมาณ 4,800,000 บาทต่อปี หากคิดเป็นรายได้ต่อเดือนก็ประมาณ 400,000 บาทต่อเดือน ซึ่งผลสำรวจยังแสดงให้เห็นว่าคน Gen Z ใช้จ่ายเงินในการดูแลสัตว์เลี้ยงประมาณเดือนละ 178 ดอลลาร์ หรือประมาณเดือนละ 6,000 บาท ซึ่งมากกว่าคนยุคมิลลิเนียลที่ใช้จ่ายเงินกับสัตว์เลี้ยงประมาณเดือนละ 146 ดอลลาร์ และคน Gen X ที่ใช้จ่ายเดือนละ 115 ดอลลาร์ ส่วนคนยุคเบบี้บูมเมอร์ ใช้จ่ายเดือนละ 90 ดอลลาร์

Pornpassorn Sukhawattana
(Pornpassorn Sukhawattana)