

สรุปข่าว
แมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงสหรัฐฯ ได้ปิดสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงเคียฟ เมืองหลวงยูเครนวานนี้ ( 20 พ.ย. ) 1 วันหลังยูเครนเริ่มยิงขีปนาวุธพิสัยไกลของสหรัฐฯ โจมตีในดินแดนรัสเซียครั้งแรกเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สหรัฐฯ ยังเตือนพลเมืองของสหรัฐฯ ที่อยู่ในเคียฟให้เตรียมพร้อมเข้าไปหลบในสถานที่หลบภัยทันที
อย่างไรก็ตาม มิลเลอร์คาดว่า สหรัฐฯ จะปิดเพียง 1 วันและสามารถกลับมาเปิดการปฏิบัติงานของสถานทูตได้ตามปกติได้ตั้งแต่วันนี้
ด้านสถานทูตหลายประเทศยุโรปคืออิตาลี กรีซ สเปนได้ปิดสถานทูตประจำกรุงเคียฟแล้วเช่นกัน แต่สถานทูตสหราชอาณาจักรไม่มีความเคลื่อนไหวใด
ล่าสุด สถานทูตฝรั่งเศสเตือนให้ใช้ความระมัดระวัง แต่ไม่ได้ปิดสถานทูตฝรั่งเศสในยูเครนแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ขีปนาวุธพิสัยไกลที่ยูเครนใช้ยิงใส่รัสเซีย 2 วันติดต่อกันเมื่อวันอังคารและพุธที่ผ่านมา (19-20) เป็นขีปนาวุธของสหรัฐฯ กับสหราชอาณาจักร ไม่รวมถึงฝรั่งเศสที่ได้มอบขีปนาวุธ "สตอร์ม แชโดว์" ไว้ให้แก่ยูเครนเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ ทั้งสหรัฐฯ สหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสได้ห้ามไม่ให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของตะวันตก ในการโจมตีเป้าหมายในดินแดนรัสเซีย แต่ล่าสุดสหรัฐฯ ได้เปลี่ยนจุดยืนครั้งใหญ่ อนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของสหรัฐฯ ยิงเป้าหมายในรัสเซียได้
สภาพในกรุงเคียฟวานนี้ เสียงไซเรนดังโหยหวนทั่วเมืองหลวงยูเครนในช่วงบ่ายตามเวลาท้องถิ่น ยูเครนได้ออกประกาศเตือนภัยโจมตีทางอากาศทั้งในกรุงเคียฟและอีกหลายแคว้นวานนี้ ส่วนทางทำเนียบประธานาธิบดียูเครนเตือนประชาชนอย่าละเลยคำเตือนโจมตีทางอากาศนี้ ด้านกองทัพอากาศยูเครนระบุว่า การโจมตีทางอากาศดังกล่าวคาดว่าเป็นภัยคุกคามจากขีปนาวุธ
การประกาศเตือนภัยของยูเครนวานนี้ เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ปิดสถานทูตสหรัฐฯ ในเคียฟ ระบุเหตุผลว่า ได้รับข้อมูลชัดเจนว่า เคียฟอาจถูกโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่
ภาพจาก: รอยเตอร์
ที่มาข้อมูล : -