นายกสมาคมค้าทองคำชี้ 3,000 ดอลลาร์ ควรขาย หรือถือต่อ? I WEALTH LIVE

ราคาทองคำพุ่งไม่หยุด! แตะ 3,113 ดอลลาร์ คุณจิตติชี้โอกาสทำกำไรยังมีต่อ

ราคาทองคำยังคงเดินหน้าทำสถิติใหม่ ล่าสุดทะลุ 3,113 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ สร้างความมั่งคั่งให้กับนักลงทุนทั่วโลก รวมถึงนักลงทุนไทย โดยคุณจิตติ ตั้งสิทธิภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยในรายการ WEALTH LIVE ว่า ราคาทองคำพุ่งขึ้นเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ และยังคงเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจในช่วงที่เศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอน

สรุปข่าว

ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนในปีนี้ โดยมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปแตะระดับ 3,200-3,500 ดอลลาร์ นักลงทุนควรใช้กลยุทธ์ทยอยขายทำกำไร และเข้าซื้อใหม่เมื่อราคาปรับฐาน เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในตลาดที่ผันผวนนี้

ธนาคารกลางจีนเข้าซื้อ เสริมแรงหนุนทองคำพุ่ง

คุณจิตติระบุว่า หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ผลักดันราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วคือ การเข้าซื้อทองคำของธนาคารกลางจีน และความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มถดถอย นักลงทุนทั่วโลกจึงเลือกสะสมทองคำมากขึ้นเพื่อป้องกันความเสี่ยง ทำให้ดีมานด์ทองคำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

กลยุทธ์การลงทุน: ทยอยขายทำกำไร แต่อย่าพลาดโอกาสเข้าซื้อใหม่

สำหรับนักลงทุนที่ถือทองคำอยู่ คุณจิตติแนะนำว่า ควรแบ่งขายทำกำไรเล็กน้อย หากได้กำไรประมาณ 10-20 เหรียญต่อออนซ์ และรอจังหวะให้ราคาย่อลงมาประมาณ 300 เหรียญก่อนเข้าซื้อใหม่ เนื่องจากมองว่าในระยะกลางและระยะยาว ราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มขาขึ้น

“แม้ทองคำจะมีการปรับฐานในระยะสั้น แต่ในภาพรวมยังคงเป็นขาขึ้น คาดว่าในปีนี้ราคาทองคำอาจแตะระดับ 3,200-3,500 ดอลลาร์สหรัฐ ได้ หากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกยังคงไม่แน่นอน” คุณจิตติกล่าว

เงินบาทแข็งค่า กดดันราคาทองคำไทย แต่ยังทำสถิติสูงสุด

ด้านราคาทองคำไทย แม้ว่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นมาเล็กน้อย แต่ยังสามารถทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 47,850 บาท ต่อบาททองคำ นักลงทุนยังสามารถใช้กลยุทธ์ขายทำกำไรบางส่วน และรอเข้าซื้อใหม่ที่ระดับ 47,300-47,500 บาทได้

ทองคำแท่งคึกคัก แต่ทองรูปพรรณซบเซา

คุณจิตติยังกล่าวถึงความแตกต่างระหว่างตลาดทองคำแท่งและทองรูปพรรณว่า ปัจจุบันนักลงทุนให้ความสนใจทองคำแท่งมากกว่า ขณะที่ยอดขายทองรูปพรรณซบเซาลง เนื่องจากราคาสูงขึ้น และภาวะเศรษฐกิจที่ทำให้ประชาชนมีกำลังซื้อลดลง

แนวโน้มทองคำยังสดใส นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด