สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า UBS Group ปรับเพิ่มคาดการณ์ "ราคาทองคำ" เนื่องจากมีโอกาสเกิดสงครามการค้าโลกที่ยืดเยื้อมากขึ้น ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะยังคงผลักดันให้ผู้ลงทุนซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยระดับสูงนี้ต่อไป
Wayne Gordon และ Giovanni Staunovo นักวิเคราะห์ กล่าวว่า ราคาทองคำแท่ง มีแนวโน้มที่จะซื้อขายที่ 3,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในอีก 4 ไตรมาสข้างหน้า ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ของธนาคารที่ 3,000 ดอลลาร์ โดยความขัดแย้งทางการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นเน้นย้ำถึงบทบาทของโลหะมีค่าในฐานะแหล่งเก็บมูลค่าในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน
สรุปข่าว
UBS Group ชี้ให้เห็นถึงแผนของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่จะกำหนดทั้งภาษีศุลกากรแบบตอบโต้และภาษีศุลกากรเฉพาะภาคส่วนเพิ่มเติมในวันที่ 2 เมษายน 2568 ว่าเป็นเหตุการณ์เสี่ยงที่ใกล้จะเกิดขึ้น ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างต่อเนื่องในตลาดต่างๆ ทองคำ ซึ่งทะลุเกณฑ์ทางจิตวิทยาที่สำคัญที่ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 มี.ค.68 จะได้รับประโยชน์จากแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐที่แย่ลงเช่นกัน โดยขณะนี้ผู้ค้ากำลังกำหนดราคาการลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมของธนาคารกลางสหรัฐ เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ทั้งนี้ UBS ร่วมกับธนาคารอื่น ๆ อีกหลายแห่งที่ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาทองคำในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Macquarie Group คาดการณ์ว่า ราคาจะพุ่งสูงถึง 3,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในไตรมาสที่ 2 ขณะที่ BNP Paribas SA ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาเฉลี่ยให้สูงกว่า 3,000 ดอลลาร์
นักวิเคราะห์ UBS กล่าวว่า กระแสเงินไหลเข้ากองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนที่รองรับด้วยทองคำแท่งเริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น ความต้องการอย่างต่อเนื่องของเครื่องมือการลงทุนเหล่านี้ยังคงเป็นข้อกำหนดสำคัญที่ทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้นไปอีก
ที่มาข้อมูล : สำนักข่าวบลูมเบิร์ก
ที่มารูปภาพ : TNN
Chakorn Nhukongmai
(Chakorn Nhukongmai)