จีน ประชุมสองสภา ประกาศเป้าหมายจีดีพีปี 2568 โต 5 % เป้าขาดดุลงบสูงสุด จ่อออกพันธบัตร 1.3 ล้านล้านหยวน

ประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง ผู้นำของจีน พร้อมด้วยบุคคลสำคัญ เข้าร่วมประชุมสองสภาของจีน และมีการประกาศเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี (GDP) ของปี 2568 โต 5% และขยายเป้า ขาดดุลการค้า สูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่ลดเป้าเงินเฟ้อ พร้อมเปิดแผนออกพันธบัตรเพิ่ม ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียด จากสงครามการค้า หลังจากที่สหรัฐฯ เดินหน้าขึ้นภาษีนำเข้ากับจีนอย่างต่อเนื่อง
สำนักข่าวซีเอ็นบีซี รายงานว่า ในการประชุมสองสภาของจีน (Two Sessions) ที่กรุงปักกิ่ง โดยเมื่อวานเป็นการประชุมสภาที่ปรึกษาทางการเมืองแห่งประชาชนจีน (CPPCC) ส่วนในวันนี้เป็นการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC)
ล่าสุดมีรายงานว่าทางการจีนได้ประกาศตั้งเป้าการเติบโตของ GDP ปี 2568 ไว้ที่ ประมาณ 5% พร้อมวางมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจท่ามกลางความตึงเครียดของ “สงครามการค้า” ที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้นกับสหรัฐ
จีนเพิ่มเป้า ‘ขาดดุล’ และขยับเพดาน ‘เงินเฟ้อ’
ทางการจีนได้เพิ่มเป้าหมายการขาดดุลงบประมาณ เป็น 4% ของ GDP จาก 3% เมื่อปีที่แล้ว โดย ข้อมูลของวินด์ อินฟอร์เมชัน Wind Information ระบุว่าตัวเลขขาดดุล 4% ถือเป็นตัวเลขสูงสุดเท่าที่มีการบันทึกไว้เมื่อ 2553 โดยก่อนหน้านี้ตัวเลขขาดดุลที่สูงที่สุดอยู่ที่ 3.6% ในปี 2563
ขณะเดียงกันทางการจีนยังได้ประกาศปรับลดเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อประจำปีลงเหลือเพียงประมาณ 2% ตามข้อมูลจาก สถาบันนโยบายสังคมเอเชีย (Asia Society Policy Institute) ระบุว่า ตัวเลขนี้ถือเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบกว่าสองทศวรรษ หากเทียบกับในหลายปีที่ผ่านมา ที่จะอยู่ที่ระดับ 3% หรือสูงกว่านั้น
จ่อออก ‘พันธบัตร’ 1.3 ล้านล้านหยวน
นอกจากนี้รายงานของรัฐบาลยังได้ระบุแผนการออก พันธบัตรรัฐบาลระยะยาวพิเศษ” มูลค่า 1.3 ล้านล้านหยวนในปี 2568 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 300,000 ล้านหยวน และคาดว่าจะมีการออกพันธบัตรรัฐบาลพิเศษอีกกว่า 500,000 ล้านหยวนเพื่อสนับสนุนธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ของรัฐ’

สรุปข่าว
ทั้งนี้การประชุมครั้งนี้เป็นความเคลื่อนไหวที่หลายฝ่ายโดยเฉพาะนักลงทุนทั่วโลกจับตา เพราะการประชุมครั้งนี้จัดขึ้นในช่วงที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้กำหนดภาษีนำเข้าสินค้าจีนใหม่ ซึ่งเพิ่มอัตราภาษีเป็น 20% มีผล 4 มีนาคม 2568 ซึ่งเป็นขึ้นภาษีอย่างต่อเนื่องถึง 2 รอบ หลังจากนั้นจีนเองได้ตอบโต้กลับ ด้วยการประกาศขึ้นภาษีสูงสุด 15% กับสินค้าสหรัฐหลายรายการ รวมถึงสินค้าทางการเกษตรอย่างข้าวโพดและถั่วเหลือง โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2568 นี้
นอกเหนือจากการดำเนินมาตรการทางเศรษฐกิจแล้ว จีนยังได้เพิ่มบริษัทของสหรัฐอเมริกาอีก 10 แห่งเข้าสู่รายชื่อนิติบุคคลที่ไม่น่าเชื่อถือ ซึ่งอาจส่งผลให้บริษัทเหล่านี้มีข้อจำกัดในการดำเนินธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย โดยบริษัทสหรัฐส่วนใหญ่ที่ถูกระบุในครั้งนี้เป็นบริษัทในอุตสาหกรรมอวกาศ กลาโหม และอุตสาหกรรมโดรน ฃณะเดียวกันก็เดินหน้าฟ้องร้อง WTO เพื่อเอาผิดตามกระบวนการทางกฎหมาย เนื่องจากได้รับการค้าที่ไม่เป็นธรรม
การประชุมประจำปีครั้งสำคัญที่สุดในจีน หรือ “การประชุมสองสภา” เริ่มต้นในวันอังคารที่ 4 มีนาคม 2568 เริ่มต้นที่ การประชุมสภาที่ปรึกษาทางการเมืองจีน (CPPCC) และในวันพุธที่ 5 มีนาคม 2568 เป็น การประชุมสภาประชาชนจีน (NPC) โดยการประชุมซึ่งจะกินเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ไปจนถึงวันที่ 11 มีนาคม 2568 เพื่อวางกรอบนโยบายสำคัญตลอดทั้งปีของจีน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและบรรดาหัวหน้าหน่วยงานด้านเศรษฐกิจจะแถลงข่าวเป็นระยะระหว่างการประชุม
ที่มาข้อมูล : CNBC
ที่มารูปภาพ : Freepik canva

ทิฆัมพร อยู่กำเหนิด