ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ยืนยันวานนี้ว่าสหรัฐ จะเดินหน้าเรียกเก็บภาษีศุลกากรต่อสินค้าที่นำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกตามกำหนดเดิมที่เคยระบุไว้ โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 มีนาคม ซึ่งเป็นเส้นตายที่ทรัมป์ เคยขยายเวลาการบังคับใช้ออกไป 1 เดือน ทั้งนี้ เนื่องจากทั้งสองประเทศ ยังคงไม่ได้ดำเนินการมากพอในการสกัดการไหลทะลักของยาเฟนทานิลผ่านชายแดนเข้าสู่สหรัฐ
นอกจากนี้ "ทรัมป์" ยังระบุว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมอีกร้อยละ 10 ต่อสินค้านำเข้าจากจีนในวันที่ 4 มี.ค.เช่นกัน นอกเหนือจากที่มีการเรียกเก็บในอัตราร้อยละ 10 อยู่แล้วในขณะนี้ส่วนการบังคับใช้ภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariff) "ทรัมป์" ประกาศจะบังคับใช้ ในวันที่ 2 เม.ย. นี้ อย่างเต็มกำลังและมีประสิทธิภาพ
สรุปข่าว
ขณะที่ก่อนหน้านี้ไม่นาน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพิ่งจะลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารสั่งการให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณาความเป็นไปได้ในการเรียกเก็บภาษีนำเข้าทองแดง โดย “ปีเตอร์ นาวาร์โร” ที่ปรึกษาด้านการค้าของทรัมป์ระบุว่ามาตรการนี้จะเจาะจงไปที่จีน เหตุเพราะจีนใช้กำลังการผลิตที่เกินความต้องการ และใช้การทุ่มตลาดเป็นอาวุธทางเศรษฐกิจเพื่อครอบงำตลาดโลก ซึ่งถือเป็นการตัดราคาคู่แข่งอย่างเป็นระบบ และบีบให้คู่แข่งต้องเลิกทำธุรกิจในที่สุด
อย่างไรก็ดี ล่าสุด “เหอ หย่าตง” โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน ได้ออกโรงเรียกร้องให้สหรัฐฯ ยุติการสอบสวนเพื่อขึ้นภาษีนำเข้าทองแดงทันที แต่หากสหรัฐฯ ยังยืนกรานที่จะเก็บภาษีนำเข้าและใช้มาตรการกีดกันทางการค้าอื่น ๆ จีนก็จะดำเนินการตอบโต้อย่างเฉียบขาด เพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรม

null null
(athit_kus)