ฮ่องกงเดินหน้าศูนย์กลางทางการเงิน อนุมัติแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัล 9 แห่ง พัฒนากฎสเตเบิลคอยน์

พอล ชาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของฮ่องกง เปิดเผยในวันนี้ (19 กุมภาพันธ์ 2568 ) ว่า หน่วยงานกำกับดูแลของฮ่องกงได้ออกใบอนุญาตให้กับแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลจำนวน 9 แห่ง และยังมีคำขอที่อยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติเพิ่มเติมอีก


นอกจากนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของฮ่องกง  กล่าวในการประชุม Consensus Hong Kong 2025 ของบริษัทคอยน์เดสก์ (Coindesk) ว่า รัฐบาลฮ่องกงกำลังดำเนินการเพื่อพัฒนากฎระเบียบเกี่ยวกับสเตเบิลคอยน์ (stable coins) ด้วย


ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า หน่วยงานกำกับดูแลด้านหลักทรัพย์ของฮ่องกงได้ออกใบอนุญาตให้แก่แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี 4 แห่งเมื่อวันพุธที่ 18 ธ.ค. 2567 ซึ่งถือเป็นความพยายามของฮ่องกงในการรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันเพื่อเป็นศูนย์กลางการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลก

 ฮ่องกงเดินหน้าศูนย์กลางทางการเงิน  อนุมัติแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัล  9 แห่ง พัฒนากฎสเตเบิลคอยน์

สรุปข่าว

ฮ่องกง ออกใบอนุญาตแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัล 9 แห่ง หวังเสริมแกร่งการเป็นศูนย์กลางทางการเงิน

ทั้งนี้ ฮ่องกงได้พยายามที่จะส่งเสริมสถานะการเป็นศูนย์กลางด้านสินทรัพย์ต่าง ๆ อาทิ คริปโทเคอร์เรนซี เพื่อพยายามรักษาความน่าดึงดูดใจในฐานะศูนย์กลางทางการเงิน โดยมีการจัดทำแผนการเป็นศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นครั้งแรกในปี 2565 ซึ่งเป็นความพยายามที่เกิดขึ้น หลังจากที่ปักกิ่งได้ออกคำสั่งห้ามการทำธุรกรรมสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมดในจีนแผ่นดินใหญ่ และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาได้เปิดตัวกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลแห่งแรกในเอเชีย รวมถึงโครงการริเริ่มอื่นๆ อีกด้วย ขณะที่สิงคโปร์และดูไบมีเป้าหมายที่จะเป็นศูนย์กลางระดับโลกสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัลเช่นกัน


ทั้งนี้ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า หน่วยงานกำกับดูแลด้านหลักทรัพย์ของฮ่องกงได้ออกใบอนุญาตให้แก่แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี 4 แห่ง เมื่อเดือนธันวาคม 2567  เพื่อพยายามที่จะส่งเสริมสถานะการเป็นศูนย์กลางด้านสินทรัพย์ต่าง ๆ อาทิ คริปโทเคอร์เรนซี เพื่อพยายามรักษาความน่าดึงดูดใจในฐานะศูนย์กลางทางการเงิน โดยฮ่องกงได้เปิดตัวกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน (ETF) สำหรับบิตคอยน์และอีเธอร์แห่งแรกของเอเชียเมื่อช่วงกลางปีที่แล้ว หรือเดือนเมษายน 2567 ที่ผ่านมา  ขณะที่การแข่งขันในระดับนานาชาติเพื่อเป็นศูนย์กลางด้านคริปโทฯ ของโลกนั้นดุเดือดขึ้น มีหลายประเทศที่ประกาศให้ตัวเองเป็นศูนย์กลางการเงิน เช่น สิงคโปร์ และดูไบของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แม้กระทั่งประเทศไทยของเราเองด้วยเช่นกัน 

 


ที่มาข้อมูล : Reuters Yahoo Finance

ที่มารูปภาพ : Freepik

avatar

ทิฆัมพร อยู่กำเหนิด