นายปิ่นสาย สุรัสวดีอธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรจัดเก็บรายได้เดือนมีนาคมได้กว่า 170,000 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนกว่า 6,600 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.0 และสูงกว่าประมาณการจัดเก็บภาษีสรรพากรตามเอกสารงบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 0.6
ทั้งนี้ เมื่อนับรวมการจัดเก็บรายได้สะสม 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 กรมสรรพากรจัดเก็บได้กว่า 960,000 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนกว่า 36,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 3.9 และสูงกว่าประมาณการกว่า 10,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 1.1
สรุปข่าว
สำหรับ ผลการจัดเก็บรายได้ในเดือนมีนาคมนั้น ส่วนสำคัญมาจากการจัดเก็บรายได้จากภาษีมูลค่าเพิ่มจากการบริโภคภายในประเทศ โดยกรมสรรพากรสามารถจัดเก็บได้สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
ขณะเดียวกัน กรมสรรพากรได้จัดทำข้อตกลงการกำหนดราคาเป็นการล่วงหน้า (Advance Pricing Arrangement: APA) ระหว่างกรมสรรพากรไทยกับกรมสรรพากรต่างประเทศ ซึ่งช่วยอำนวยรายได้ภาษีเงินได้นิติบุคคลจากธุรกรรมข้ามพรมแดนที่เป็นธรรมแก่ประเทศไทย
นอกจากนี้ ในส่วนการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จนถึงวันที่ 3 เมษายน 2568 มีแบบที่ยื่นมาแล้วทั้งหมดจำนวน 11.12 ล้านแบบ โดยเป็นแบบที่มีการขอคืนภาษี จำนวน 4.37 ล้านแบบ หรือคิดเป็นร้อยละ 39 ซึ่งกรมสรรพากรได้ดำเนินการคืนภาษีเรียบร้อยแล้วร้อยละ 83 ของแบบที่มีการขอคืนภาษี
สำหรับผู้เสียภาษีท่านใดที่ยื่นแบบแล้ว แต่ยังไม่ได้รับคืนภาษี กรมสรรพากรอาจใช้เวลา ในการพิจารณา เช่น ต้องมีการขอเอกสารเพิ่มเติม โดยกรมสรรพากรอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด
วิลาวัลย์ ปะมา