
สำนักข่าว BBC รายงานว่า กระทรวงศึกษาธิการสหรัฐ กำลังวางแผนลดจำนวนพนักงานประมาณครึ่งหนึ่ง โดยการเลิกจ้างครั้งใหญ่นี้จะส่งผลกระทบต่อพนักงานเกือบ 2,100 คน ซึ่งกำหนดออกจากงานตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2568 โดยทรัมป์พยายามที่จะยุบหน่วยงานนี้มานานแล้ว ซึ่งเป็นเป้าหมายที่กลุ่มอนุรักษ์นิยมบางส่วนใฝ่ฝันมานาน แต่การกระทำดังกล่าวจะต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภา
กระทรวงศึกษาธิการสหรัฐ ซึ่งมีงบประมาณประจำปีราว 2.38 แสนล้านดอลลาร์ มีพนักงานมากกว่า 4,000 คน จัดตั้งขึ้นในปี 2522 มีหน้าที่ดูแล การจัดหาเงินทุนสำหรับโรงเรียนของรัฐ บริหารจัดการเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา และดำเนินโครงการต่าง ๆ ที่ช่วยเหลือนักเรียนที่มีรายได้น้อย

สรุปข่าว
ลินดา แม็กมาฮอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการสหรัฐ ระบุเมื่อวันที่ 11 มี.ค.68 ว่า “ในฐานะส่วนหนึ่งของภารกิจสุดท้ายของกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงได้ริเริ่มการลดจำนวนพนักงานในวันนี้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อพนักงานของกระทรวงเกือบ 50%” พร้อมเสริมว่า การตัดลดจะมีผลกระทบต่อทุกแผนกในแผนกและจะดำเนินการเพื่อให้บริการนักเรียน ผู้ปกครอง นักการศึกษา และผู้เสียภาษีได้ดีขึ้น
หน่วยงานดังกล่าวมีพนักงาน 4,133 คนเมื่อทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง ตามประกาศจากกระทรวง หน่วยงานดังกล่าวมีพนักงานน้อยที่สุดในบรรดาหน่วยงานระดับคณะรัฐมนตรีทั้ง 15 แห่งของสหรัฐ หลังจากการตัดลดพนักงานแล้ว จะมีพนักงานเหลืออยู่ 2,183 คน ซึ่งรวมถึงพนักงานหลายร้อยคนที่เกษียณอายุหรือยอมรับโครงการซื้อกิจการในช่วงต้นปีนี้