
สำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า เจพีมอร์แกน และ โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจยูโรโซนในปี 2568 จะดีขึ้นจากการปฏิรูปการคลังที่ผ่อนคลายของเยอรมนี โดยเจพีมอร์แกนคาดว่าการเติบโตจะเพิ่มขึ้น 0.1-0.8% สำหรับปี 2569
นักเศรษฐศาสตร์ของเจพีมอร์แกน กล่าวว่า “การแก้ไขครั้งนี้ขับเคลื่อนโดยเยอรมนีเป็นหลัก แต่ยังคาดการณ์ว่าการเติบโตจะแข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อยในภูมิภาคอื่นๆ จากผลกระทบที่ตามมาและนโยบายการคลังที่ผ่อนคลายเล็กน้อย”

สรุปข่าว
ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ฝ่ายต่างๆ ที่กำลังเจรจาเพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่ของเยอรมนี ตกลงที่จะพยายามผ่อนปรนกฎเกณฑ์ทางการคลัง ซึ่งจะเท่ากับการกู้ยืมเงินเกือบล้านล้านยูโร เพื่อใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศและโครงสร้างพื้นฐาน
อย่างไรก็ตามยังเตือนด้วยว่าความไม่แน่นอนจากนโยบายภาษีของทรัมป์อาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อของเขตยูโรจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในปี 2568 และปี 2569
ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ลดอัตราดอกเบี้ยลงเป็นครั้งที่ 6 นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2567 โดยลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือ 2.5% เมื่อวันที่ 6 มี.ค.68 แต่เตือนว่าจะมีความไม่แน่นอนครั้งใหญ่ ซึ่งรวมถึงความเสี่ยงที่สงครามการค้าและการใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศที่เพิ่มขึ้นอาจกระตุ้นให้เงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น จึงเพิ่มโอกาสที่จะมีการหยุดผ่อนปรนนโยบายในเดือนหน้า
เจพีมอร์แกน กล่าวว่า ไม่คาดว่า ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนเมษายน 2568 เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะปรับลด 0.25% โดยคาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งในปีนี้ คือในเดือนมิถุนายนและกันยายน เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง
ที่มาข้อมูล : สำนักข่าวรอยเตอร์
ที่มารูปภาพ : TNN