สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า มาเลเซียกำลังหารือกับบริษัทผู้ผลิตชิปที่ตั้งอยู่ในประเทศว่าจะสามารถรับภาระจากผลกระทบจากมาตรการทางภาษีของสหรัฐอเมริกาที่มีต่อสินค้าเซมิคอนดักเตอร์ได้หรือไม่ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าวในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่าเขามุ่งหมายจะเก็บภาษีนำเข้าเซมิคอนดักเตอร์ที่อัตรา 25% หรือสูงกว่านั้น แม้ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าผู้นำสหรัฐจะตัดสินใจในเรื่องนี้เมื่อใด
นายเต็งกู ซาฟรุล อาซิซ รัฐมนตรีการค้าของมาเลเซีย กล่าวในวันที่ 5 มีนาคมว่า มาเลเซียจำเป็นต้องดูขนาดและปริมาณของภาษี ที่อาจจะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการส่งออกของมาเลเซีย โดยการส่งออกจะยังคงมีต่อไป แต่จะต้องมีคนจ่ายสำหรับต้นทุนที่สูงขึ้น
สรุปข่าว
ไม่ว่าจะเป็นผู้บริโภคหรือบริษัทผู้ผลิตที่ต้องรับภาระ อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีการค้าของมาเลเซียกล่าวว่า รัฐบาลยังไม่ได้มีการหารือว่าจะทำอะไรหรือจะให้ความสนับสนุนทางการเงินหรือไม่ เพื่อชดเชยให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากกำแพงภาษีดังกล่าว
ในปีที่แล้ว มาเลเซีย ที่เศรษฐกิจพึ่งพาการส่งออกเป็นสำคัญและเติบโตเป็นฮับของศูนย์ข้อมูลและโรงงาน AI ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างรวดเร็วด้วยมีการลงทุนจากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของสหรัฐ อาทิ ไมโครซอฟต์, กูเกิล, แอมะซอน และ ออราเคิลนั้น ได้ส่งออกชิปไปยังประเทศสหรัฐมีมูลค่า 16,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเกือบ 20% ของการนำเข้าเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐทั้งหมด
ที่มาข้อมูล : สำนักข่าวรอยเตอร์
ที่มารูปภาพ : TNN