จีนประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ ส่งผลให้เกิดการปรับเปลี่ยนด้านการเคลื่อนย้ายสินค้าทั่วโลก โดยจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าสินค้าเกษตรรายใหญ่ของโลกจะต้องนำเข้าเนื้อสัตว์ นม และธัญพืชจากประเทศต่าง ๆ ในลาตินอเมริกา ยุโรป และแปซิฟิก แทนการนำเข้าสหรัฐฯ
นักวิเคราะห์หลายรายมองว่า การส่งออกถั่วเหลืองจากบราซิลที่เป็นซัพพลายเออร์รายหลักไปยังจีน รวมถึงออสเตรเลียที่ส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่ และยุโรปที่ส่งออกเนื้อหมู มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเนื่องจากสงครามการค้าที่รุนแรงขึ้น
สรุปข่าว
ทั้งนี้ เมื่อวันอังคาร จีนประกาศมาตรการภาษีตอบโต้สหรัฐฯ โดยจัดเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 10-15 สำหรับสินค้าเกษตรที่นำเข้าจากสหรัฐฯ ที่มีมูลค่าประมาณ 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์
“พ่าน เฉินจุน” นักวิเคราะห์อาวุโสจากราโบแบงก์ในฮ่องกง มองว่า เส้นทางสินค้าที่จีนนำเข้าจากสหรัฐฯ น่าจะเปลี่ยนไป โดยสินค้าหลักที่จะได้รับผลกระทบ คือ เครื่องในหมูและตีนไก่ ซึ่งจะมาจากบราซิล สเปน เนเธอร์แลนด์ และประเทศอื่น ๆ ในสหภาพยุโรป (EU)
จีนเป็นตลาดขนาดใหญ่สำหรับสินค้าเกษตรที่ส่งออกจากสหรัฐฯ โดยมีมูลค่าราว 2.925 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2567 และการปรับเปลี่ยนเส้นทางการค้าดังกล่าวจะสร้างโอกาสให้กับผู้ส่งออกรายอื่น ๆ
ในส่วนของเนื้อวัว หมู และไก่ รวมถึงเครื่องใน จีนนำเข้าจากสหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่า 1.626 หมื่นล้านดอลลาร์ ในปี 2567 แต่จีนประกาศเก็บภาษีศุลกากรจากสหรัฐฯ ร้อยละ 15 จากการนำเข้าผลิตภัณฑ์ไก่ และร้อยละ 10 สำหรับผลิตภัณฑ์หมูและวัว