
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ฮ่องกงมีเป้าหมายที่จะลดการใช้จ่าย เพื่อพยายามควบคุมการขาดดุลที่เพิ่มมากขึ้น โดยการลดตำแหน่งงานราชการ 10,000 ตำแหน่ง และมีแผนที่จะผลักดัน AI ครั้งใหญ่ ในขณะที่ต้องรับมือกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจระดับโลก ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนแอ
Paul Chan รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า จะมีการเลิกจ้างข้าราชการ 10,000 ตำแหน่งภายในเดือนเมษายน 2570 ซึ่งหมายถึงการลดลง 2% ของข้าราชการใน 2 ปีข้างหน้า นอกจากนี้เงินเดือนของภาครัฐจะถูกตรึงไว้ในปีนี้ด้วย โดยโครงการเสริมความแข็งแกร่งทางการคลังจะทำให้รายจ่ายสาธารณะลดลงสะสม 7% ตั้งแต่บัดนี้จนถึงปีงบประมาณที่สิ้นสุดในวันที่ 31 มีนาคม 2571

สรุปข่าว
ทั้งนี้การปรับลดการใช้จ่ายจะวางรากฐานทางการคลังที่ยั่งยืนสำหรับการพัฒนาในอนาคต หลังจากรายได้จากการขายที่ดินลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ขาดดุลอยู่ที่ 87,200 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง ซึ่งเกือบ 2 เท่าของที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 48,100 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง
นอกจากนี้ Paul Chan ยังกล่าวอีกว่าสอดคล้องกับความพยายามของจีนในการพัฒนาระบบพึ่งพาตนเองในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) และภาคส่วนเทคโนโลยีขั้นสูงอื่นๆ รวมถึงหุ่นยนต์ โดยฮ่องกงจะใช้จุดแข็งของตนในฐานะแพลตฟอร์มระดับนานาชาติเพื่อเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ โดยเมืองฮ่องกงได้จัดสรรเงิน 1 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกงสำหรับสถาบันวิจัยและพัฒนาปัญญาประดิษฐ์
ทั้งนี้ เศรษฐกิจขนาดเล็กและเปิดกว้างของฮ่องกงยังได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอก เช่น เศรษฐกิจจีนชะลอตัว และความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐ เนื่องจากโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ เพิ่มแรงกดดันต่อจีนเกี่ยวกับการค้า เทคโนโลยี และภูมิรัฐศาสตร์ โดยเมื่อต้นปีนี้ สหรัฐได้เรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม 10% สำหรับสินค้าจากจีนและฮ่องกง
ที่มาข้อมูล : สำนักข่าวรอยเตอร์
ที่มารูปภาพ : TNN

Chakorn Nhukongmai
(Chakorn Nhukongmai)