นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงการรับเตรียมความพร้อมรับมือการปรับขึ้นภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ว่า
เรื่องนี้รัฐบาลได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมหารือร่วมกับหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย (American Chamber of Commerce : AMCHAM) เพื่อสอบถามความต้องการของนักธุรกิจว่าเป็นอย่างไร
ทั้งนี้ในการหารือร่วมกับทางหอการค้าอเมริกันในไทย เ ทางภาคธุรกิจของสหรัฐน่าจะมีความเป็นห่วง 2 เรื่องหลัก ๆ คือ เรื่องของภาษี และเรื่องของพลังงาน ซึ่งการหารือค งต้องมารับฟังความคิดเห็นร่วมกันก่อนว่าเป็นอย่างไร และจะเดินอย่างไรต่อไป แต่ส่วนตัวมองว่า ประเทศไทยยังมีศักยภาพ เพราะตลาดของสหรัฐก็ยังอยู่ที่ไทย
เรื่องของนโยบายด้านภาษีตอนนี้เห็นชัดว่าสหรัฐฯ พร้อมจะขึ้น และพร้อมจะลง เพื่อจะให้ได้สิ่งที่ต้องการ ซึ่งเรากำลังดูว่ามีอะไรที่แตกต่างกัน เพราะจะต้องดูว่า เราค้าขายแบบไหน เราได้อะไร เขาได้อะไร รวมไปถึงดูเบื้องหลังการส่งออก ทั้งหมดนี้ก็ต้องมาดูให้ละเอียด
ส่วนกรณีความจำเป็นต้องนำเข้าสินค้าจากสหรัฐเพิ่มขึ้น เพื่อลดการเกินดุลการค้าหรือไม่นั้น มองว่า ปัจจุบันประเทศไทยก็นำเข้าสินค้าบางประเภทจากสหรัฐที่ต้องการอยู่แล้ว และคาดว่าจะไม่มีปัญหาอะไร เพราะการนำเข้าสินค้า จะต้องดูคุณภาพ และราคา ซึ่งทั้งหมดก็เป็นไปตามเกณฑ์
สรุปข่าว
นอกจากนี้ในส่วนโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่าน เงินดิจิทัล ระยะ 3 นั้น ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2568 หรืออย่างช้าในช่วงต้นเดือนมีนาคม 2568 นี้ คาดว่า จะนัดประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อพิจารณา โครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ระยะ 3 สำหรับบุคคลทั่วไปที่ลงทะเบียนแล้วได้
ส่วนรายละเอียดของการดำเนินโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ระยะ 3 จะเป็นอย่างไรนั้น คงต้องรอการประชุมอีกครั้ง ซึ่งส่วนตัวเห็นว่ารายละเอียดต่าง ๆ คงไม่ได้เปลี่ยนอะไรมากนัก