ธนาคารไทยเตรียมจัดการบัญชีม้านิติบุคคล

นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า การป้องกันการเปิดบัญชีม้าในส่วนของธนาคารพาณิชย์นั้น ถือว่าได้ผลดี แต่ระบบธนาคารต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมากในการสร้างระบบกลางขึ้นมา 

รวมถึงการผลักดันให้เกิดกลไกต่างๆ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ซึ่งล่าสุด รัฐบาลมีคำสั่งให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือกฟภ. (PEA) ตัดกระแสไฟฟ้าที่ส่งไป 5 จุด ในเมียนมา มองว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่รัฐบาลตั้งใจปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 

อย่างไรก็ดี หากดูถึงต้นน้ำก็ต้องดูส่วนของเทเลคอมที่ต้องพิจารณาเรื่องซิมการ์ด ไปจนถึงปลายน้ำการนำเงินออกคือคริปโตเคอร์เรนซี ดังนั้นหากทำอย่างเป็นระบบ ก็จะทำให้การแก้ไขปัญหามีประสิทธิภาพมากขึ้น

ส่วนความคืบหน้าร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ป้องกัน และปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเป็นเรื่องของภาครัฐ ขณะที่ความรับผิดชอบร่วมกันนั้นเห็นด้วย แต่ต้องครบทั้งระบบของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 

เพราะขณะนี้ธนาคารเปรียบเสมือนแซนวิช อยู่ตรงกลาง โดยมีหน้าที่รับเงินโอนเข้ามาตั้งแต่ต้นน้ำ มองว่าต้องมีกลไกป้องกันตั้งแต่โอนเข้า จนถึงการระงับเงินโอนออกไปที่ปลายน้ำได้ด้วยเช่นกัน หวังว่าจะมีกลไกเหล่านี้เกิดขึ้นพร้อมๆ กัน 

ตั้งแต่มาตรการดังกล่าวมีผลบังคับใช้ สมาคมธนาคารไทย ทยอยปิดบัญชีม้าไปแล้วกว่า 1 ล้านบัญชี ควบคู่กับมาตรการปิดปากม้าที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จัดทำขึ้น ยอมรับว่าบัญชีม้าเกิดขึ้นทุกวันแต่ต้องมีกลไกควบคุมให้ได้

ส่วนสกรณีบัญชีที่ถูกปิดแต่ยืนยันว่า บริสุทธิ์ จะต้องมีขั้นตอนยืนยันตัวตนและพิสูจน์ตัวตนที่เข้มข้นขึ้น อาจจะส่งผลให้ผู้ใช้บริการไม่สะดวกสบายบ้าง

ด้านนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) กล่าวว่า แนวทางการแก้ไขบัญชีม้าของสมาคมธนาคารไทยนั้น กกร. สนับสนุนแนวทางการยกระดับการจัดการบัญชีม้าดังกล่าว 

โดยจากการดำเนินการที่ผ่านมา มีการจัดการระงับบัญชีม้าไปแล้วกว่า 1 ล้าน 8 แสนบัญชี และเตรียมออกมาตรการเพิ่มเติมในการจัดการบัญชีม้านิติบุคคลด้วย