
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) ทีเส็บ กล่าวว่า การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ปี 2568 โดยได้กำหนดเป้าหมายจำนวนนักเดินทางไมซ์ทั้งในและต่างประเทศ 34 ล้านคน และรายได้ 2 แสนล้านบาท พร้อมการขึ้นอันดับจุดหมายปลายทางไมซ์แห่งเอเชีย
โดยจะใช้ 5 ยุทธศาสตร์สำคัญ (TCEPGO ที่เส็บโก) ได้แก่ สนับสนุนงานไม้แนวอุตสาหกรรมเป้าหมายและเดินงานไม้ระดับโลกมุ่งเน้นตลาดศักยภาพใหม่ เช่น ตะวันออกกลางและกลุ่ม BRICS เพื่อให้ประเทศไทยเป็นส่วนกลางการจัดงานไมซ์ระดับนานาชาติ // การพัฒนาสถานที่จัดงานด้วยความหลากหลายของอัตลักษณ์เชิงพื้นที่ // พัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ด้วยนวัตกรรมและยกระดับขีดความสามารถด้วย Thailand MICE one stop service เพื่อลดขั้นตอน และขยาย MICE Lane Service ไปยังพื้นที่ใหม่ๆ // พัฒนาระบบและกระบวนการทำงานด้วย Digital Transformation โดยใช้โดยใช้ big data //และยุทธศาสตร์สุดท้ายการการยกระดับองค์ความรู้และแนวปฏิบัติการจัดงานอย่างยั่งยืนโดยขับเคลื่อนตามแนวทาง ESG
พร้อมกับกำหนดกลยุทธ์ คือ
Stay Longer กระตุ้นระยะเวลาพำนักของนักเดินทางไมซ์ในประเทศไทยให้นานขึ้น
Spend More กระตุ้นการใช้จ่ายของนักเดินทางให้มากขึ้น
และ See You Again กระตุ้นให้นักเดินทางไมซ์กลับมาประเทศไทยอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามหากย้อนไปดูผลงานในปี 2567 ที่ผ่านมา ไมซ์ได้ดึงดูดนักเดินทางทั้งในและต่างประเทศ 25 ล้านคน โดยมาจาก จีน และ อินเดียเป็นหลัก สร้างรายได้ 148,341 ล้านบาท เกิดเป็นรายได้ประชาชาติรวมมูลค่า 309,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น ร้อยละ 1.67 ของจีดีพี ประเทศไทย ขณะที่ในด้านความสามารถของไมซ์ประเทศไทย จากการจัดอันดับของสมาคมการประชุมนานาชาติ หรือ ICCA ในปี 2566 ไทยอยู่อันดับ 26 ของโลก อันดับ 6 ของเอเชียแปซิฟิกซ์ และอันดับที่ 2 ในอาเซียน ซึ่งจะเห็นได้ว่าอุตสาหรรมไมซ์เป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ประเทศไทย

สรุปข่าว