นายสุทธิพงษ์ คงพูล ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยว่า ตามที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้สั่งการให้ กพท. วางแผนรองรับการเดินทางช่วงสงกรานต์ และวางแผนแก้ปัญหาราคาตั๋วในระยะยาว เพื่อยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง และที่สำคัญราคาต้องมีความเหมาะสม ทุกเที่ยวบิน นั้น ทาง กพท.ได้ขานรับนโยบายและได้ดำเนินการเตรียมแผนเพื่อรองรับการเดินทางช่วงเทศกาลวันหยุดยาวในช่วงเดือนเมษายน 2568
ทั้งนี้ กพท. มีแนวทางที่จะจัดสรรราคาตั๋วเครื่องบินให้เหมาะสม และเพื่อป้องกันไม่ให้ราคาตั๋วพุ่งสูงจนเกินไป ดังนั้น กพท. จึงได้กำหนด เพดานราคาค่าโดยสารสูงสุดไว้ตามระยะทางบิน โดยกำหนดให้ค่าโดยสารสูงสุดสำหรับบริการต้นทุนต่ำ ไม่เกิน 9.40 บาท/กม. และค่าโดยสารสูงสุดสำหรับบริการ เต็มรูปแบบ ไม่เกิน 13 บาท/กม. ซึ่งจะควบคุมเฉพาะการจองกับสายการบินโดยตรงเท่านั้น
ซึ่งการกำหนดเพดานราคานั้นได้คำนวณต้นทุนตามมาตรฐาน ขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ โดยค่าใช้ จ่ายประมาณ 25 - 33% เป็นค่าน้ำมันเชื้อเพลิง 20 - 31% เป็นค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติการบิน 8 - 16 % เป็นค่า ซ่อมบำรุง นอกจากนั้น ยังมีค่าใช้จ่ายที่เป็นค่าบริการ สนามบิน ค่าบริการการเดินอากาศ และค่าใช้จ่ายในการ บริหารจัดการอื่น ๆ
นอกจากนี้ แนวทางการแก้ไขปัญหาราคาตั๋วเครื่องบินแพง ดังนี้ อย่างแรก เพิ่มอุปทาน โดยเร่งกระบวนการต่าง ๆ เพื่อเพิ่ม ความสามารถให้กับระบบการบินของประเทศ เช่น เที่ยว บิน สายการบิน ศูนย์ซ่อมอากาศยาน เป็นต้น โดย กพท. ได้มีการประสาน กับสายการบิน สนามบิน และผู้ให้บริการจราจรทางอากาศ เพื่อให้มีการเพิ่มเที่ยวบินในช่วงเทศกาลต่อไป
สองคือ กพท. อยู่ระหว่างการเก็บข้อมูลเพื่อศึกษาวิเคราะห์ หลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อปรับสมดุล ด้านราคาตั๋วในทุกมิติให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลมาก ยิ่งขึ้น และ สาม เนื่องจากสายการบินสัญชาติไทย เป็นโครงสร้าง พื้นฐานที่สำคัญในการพัฒนาทางเศรษฐกิจของประเทศ
สรุปข่าว