สมาคมผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกแห่งอังกฤษ (BRC) เปิดเผยผลสำรวจล่าสุด พบว่า ในปี 2567 ร้านค้าปลีกในอังกฤษเผชิญความเสียหายจากการลักขโมยสินค้าคิดเป็นมูลค่าราว 2.2 พันล้านปอนด์ ท่ามกลางปัญหาการลักขโมยที่เกิดขึ้นต่อเนื่องและรุนแรงขึ้น โดยความเสียหายจากเหตุลักขโมยสินค้าในร้านค้าปลีกเพิ่มขึ้นร้อยละ 21 ในปีงบการเงินที่สิ้นสุดวันที่ 31 สิงหาคม ปี 2567 เมื่อเทียบจากปีก่อนหน้า
ผลการศึกษาล่าสุดของสมาคมฯ อ้างอิงจากกลุ่มตัวอย่างในกลุ่มค้าปลีกที่มีพนักงานมากกว่า 1.1 ล้านคน และมีรายได้รวมต่อปีอยู่ที่ 1.94 แสนล้านปอนด์
“เฮเลน ดิกคินสัน” ประธานบริหารของสมาคมฯ กล่าวว่า อาชญากรรมในร้านค้าปลีกกำลังเพิ่มขึ้นเหนือการควบคุม อาชญากรรมดังกล่าวรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ โดยผู้ก่อเหตุมีความกล้าและอุกอาจมากขึ้น
ปัจจุบัน ผู้ค้าปลีกต้องเผชิญปัญหาเหตุลักขโมยสินค้าในร้านค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากภาวะเงินเฟ้อหลังวิกฤตโควิดทำให้เหตุลักขโมยทั่วโลกเพิ่มขึ้น
ปัญหาดังกล่าวรุนแรงขึ้นในอังกฤษ เนื่องจากรัฐบาลชุดที่แล้วลดการตรวจสอบเหตุลักเล็กขโมยน้อยที่มีมูลค่าต่ำกว่า 200 ปอนด์ ซึ่งเป็นนโยบายที่รัฐบาลชุดใหม่เตรียมจะยกเลิก
ข้อมูลพบว่า ในปี 2567 เหตุรุนแรงและกระทำความผิดในเรื่องนี้เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 53 สู่ระดับสูงสุดตลอดกาลที่กว่า 2,000 เหตุการณ์ต่อวัน เพิ่มขึ้นจาก 1,300 เหตุการณ์ ในจำนวนนี้มีเพียงร้อยละ 10 ที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ขณะที่มีเพียงร้อยละ 2 เท่านั้นที่ถูกลงโทษ
หลายปีมานี้ อุตสาหกรรมค้าปลีกระบุว่า การดำเนินการที่ล่าช้าของตำรวจเพิ่มความเสี่ยงในการก่อเหตุมากขึ้น และทำให้ผู้ค้าปลีกต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยภายในร้าน ซึ่งต้นทุนในการป้องกันเหตุร้าย อาทิ การติดกล้อง CCTV เพิ่มขึ้นร้อยละ 52 อยู่ที่ 1.8 พันล้านปอนด์ในปี 2567 จาก 1.2 พันล้านปอนด์ในปีก่อนหน้า
สรุปข่าว
