

สรุปข่าว
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เครื่องสำอางไทยเป็นหนึ่งในอุตฯที่มีการเติบโตอย่างมาก ได้รับความนิยมทั้งจากผู้บริโภคในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ไทยต้องรักษาฐานความนิยม
โดยต้องมีการเสริมจุดแข็ง อาทิ ดึงจุดเด่นที่มีการใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ และขจัดจุดอ่อน อาทิ ผลักดันให้เป็นที่รู้จักในตลาดโลกมากขึ้น เพิ่มช่องทางการขายใหม่ๆ ทั้งตลาดออนไลน์ ขายผลิตภัณฑ์ในโรงแรมและที่พัก รวมทั้งคำนึงถึงความท้าทายในการแข่งขันของสินค้าต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน และทำให้ไทยก้าวขึ้นเป็นผู้นำอุตฯเครื่องสำอางในเอเชีย
สนค.จึงได้จัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายจำนวน 8 ข้อ ให้หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องนำไปปรับใช้ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรมเครื่องสำอางไทย ให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น และทำให้ไทยก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมเครื่องสำอางในเอเชีย
สำหรับ 8 ข้อเสนอแนะ ได้แก่ 1.ส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัตถุดิบภายในประเทศของผู้ประกอบการรายย่อย โดยเฉพาะพืชพรรณ หรือสมุนไพรไทย
2.สนับสนุนให้ผู้ประกอบการจดสิทธิบัตรสูตรผลิตภัณฑ์หรือนวัตกรรมใหม่ ควบคู่กับการป้องกันการละเมิดและการลอกเลียนแบบ
3.ส่งเสริมการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการรายย่อย ผ่านการให้คำปรึกษา และแนะนำแนวทางการดำเนินธุรกิจให้กับผู้ประกอบการ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของอุตสาหกรรม
4.เพิ่มช่องทางการรับรู้ สำหรับการทำการตลาดและการจัดจำหน่าย ทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ พร้อมทั้งสนับสนุนให้เกิดการเจรจาทางธุรกิจ เพื่อสร้างโอกาสในการพบปะกับผู้ประกอบการในต่างประเทศ ซึ่งอาจนำไปสู่ความร่วมมือทางการค้าและสามารถกระจายสินค้าไปต่างประเทศ
5.เร่งผลักดันการส่งออกเครื่องสำอางไทยไปสู่ตลาดใหม่ ๆ อาทิ ประเทศแถบตะวันออกกลาง ควบคู่กับส่งเสริมให้ผู้ประกอบการศึกษาและทำความเข้าใจการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าภายใต้ข้อตกลงทางการค้า (FTA) เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถส่งออกเครื่องสำอางไทยไปยังประเทศคู่ค้า FTA มากขึ้น
6.ผลักดันให้เกิดการเชื่อมโยงและสร้างเครือข่ายของอุตสาหกรรมเครื่องสำอางให้ครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เพื่อสร้างความเข้มแข็งของห่วงโซ่การผลิตและเชื่อมโยงเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น
7.สร้างมาตรฐาน รางวัล ทั้งจากกระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพสินค้า และสร้างความได้เปรียบทางการค้า
8.มุ่งสนับสนุนการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม รวมถึงศึกษาเทคโนโลยีการผลิตเครื่องสำอางของประเทศผู้นำด้านการส่งออก เพื่อลดการพึ่งพาวัตถุดิบจากต่างประเทศ และปรับใช้เทคโนโลยีให้เหมาะกับการผลิตเครื่องสำอางไทย
ทั้งนี้ ไทยเป็นฐานการผลิตเครื่องสำอางที่สำคัญของภูมิภาค โดยมีการส่งออกเป็นอันดับที่ 2 ของอาเซียน รองจากสิงคโปร์ และมีมูลค่าการส่งออกอยู่ในอันดับที่ 18 ของโลก มูลค่า 2,590 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยตลาดที่ไทยมีมูลค่าการส่งออกมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และออสเตรเลีย
ที่มาข้อมูล : -