

สรุปข่าว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ไอเอ็นจี กรุ๊ป (ING Group) กล่าวถึงแนวโน้มในปี 2568 ว่า ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน อาจส่งผลกระทบต่อตลาดพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ในปี 2568 ในขณะที่แนวโน้มทองคำยังคงสดใส
ทั้งนี้ คำมั่นสัญญาของ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ ที่จะจัดเก็บภาษีศุลกากรกับคู่ค้าและการตอบโต้ที่อาจเกิดขึ้นนั้น อาจทำให้ตลาดต่างๆ ซึ่งรวมถึงน้ำมัน โลหะ และเกษตรกรรม ปั่นป่วน เนื่องจากผู้ค้าต่างก็มองหามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากจีนเพื่อกระตุ้นการบริโภคเช่นกัน
วอร์เรน แพตเตอร์สัน และ เอวา มันธีย์ กล่าวในรายงานว่า “พบว่าส่วนใหญ่ของกลุ่มนี้มีแนวโน้มลดลงในปี 2568 โดยที่กำลังการผลิตและดีมานด์มีความสมดุลกันในระดับหนึ่ง ความเสี่ยงที่อาจเกิดการทวีความรุนแรงของความตึงเครียดด้านการค้าถือเป็นความเสี่ยงด้านลบ ขณะที่ตลาดกำลังจับตาดูว่ามาตรการสนับสนุนของจีนจะส่งผลต่อตลาดสินค้าโภคภัณฑ์หรือไม่ และเมื่อใด”
ING เผยว่า ราคาทองคำ จะยังคงพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เนื่องจากความกังวลด้านภูมิรัฐศาสตร์ โดยราคาทองคำจะอยู่ที่ 2,760 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในปี 2568 จากระดับปัจจุบันที่ประมาณ 2,713 ดอลลาร์
โดยธนาคารกลางส่วนใหญ่ที่ซื้อทองคำจะมุ่งกระจายเงินสำรองต่างประเทศ ขณะที่การค้าที่เพิ่มขึ้นและความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์อาจเพิ่มความน่าดึงดูดใจให้กับทองคำแท่งในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ING ระบุว่าแนวโน้มของโลหะอุตสาหกรรมนั้นไม่ชัดเจน โดยการเคลื่อนไหวทางการค้า การเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นกับกฎหมายด้านสภาพอากาศของนายไบเดน และความต้องการของจีนล้วนมีส่วนสำคัญทองแดงมีแนวโน้มที่จะมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 8,900 ดอลลาร์ต่อตันในปี 2025 เมื่อเทียบกับระดับปัจจุบันที่สูงกว่า 9,200 ดอลลาร์
ที่มา บลูมเบิร์ก
ที่มาข้อมูล : -