สรุปข่าว
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีส่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือกับนายหาน จื้อเฉียงเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เพื่อกระชับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจการค้าของ 2 ประเทศ รวมถึงแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจของต่างชาติที่ฝ่าฝืนกฎหมายไทยว่า ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2 ของการหารือระหว่างกันเพื่อแก้ปัญหาสินค้าต่างชาติที่ฝ่าฝืนกฎหมายไทยว่า ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2 ของการหารือระหว่างกันเพื่อแก้ปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งไทยตั้งใจจะแก้ไขปัญหาโดยคำนึงถึงมิตรภาพและความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันในทุกมิติ
สำหรับกรณีแพลตฟอร์มขายสินค้าทางออนไลน์ของจีน คือ TEMU ที่ขายสินค้าสู่ตลาดไทยนั้น ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย.67 TEMU ได้จดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลในไทยกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแล้วโดยใช้ชื่อบริษัท เวลโค เทคโนโลยี จำกัด และฝ่ายจีนก็ยินดีที่จะส่งเสริมให้สินค้าของเอสเอ็มอีไทยให้เข้าไปจำหน่ายในจีนทั้งทางออฟไลน์และออนไลน์ โดยเฉพาะผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่างๆ
นอกจากนี้ ฝ่ายจีนยังยินดีสนับสนุนเกษตรกรไทย โดยจะพิจารณาซื้อข้าวจากไทยอีก 280,000 ตัน ให้ได้โดยเร็ว ภายใต้สัญญาซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐ(จีทูจี)ที่ทำสัญญากันไว้ 1 ล้านตัน และส่งมอบไปแล้ว 720,000 ตันเพื่อจะได้ปิดดีลสัญญาฉบับนี้ พร้อมทั้งจะเร่งผลักดันผู้นำเข้าจีนให้ซื้อมันสำปะหลังของไทยที่ผลผลิตกำลังจะออกมามากในช่วงนี้เพื่อช่วยเกษตรกรไทยกว่า 700,000 ครัวเรือนเนื่องจากราคามันสำปะหลังตกต่ำ ทั้งยังจะผลักดันให้สำนักงานศุลกากรแห่งชาติจีน (GACC) และกรมปศุสัตว์ไทยเร่งขับเคลื่อนให้จีนนำเข้าโคมีชีวิตจากไทยได้
ด้านนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ผลดำเนินงานในช่วงตั้งแต่เดือน ก.ย.67 จนถึงปัจจุบัน การนำเข้าสินค้าไร้มาตรฐานลดลงเหลือเฉลี่ยเดือนละ 2,200 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 27 จากช่วงก่อนมีมาตรการหรือช่วงเดือนม.ค.-มิ.ย.67 นำเข้าเฉลี่ยเดือนละ 3,112 ล้านบาท รวมถึงจับกุมดำเนินคดีกับสินค้านำเข้าที่ไม่ได้มาตรฐานอีก โดยกรมศุลกากร 12,145 คดี มูลค่า 529 ล้านบาท เป็นต้น
ที่มา TNN
ที่มาข้อมูล : -