สรุปข่าว
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ระยะที่ 2 ว่า กระทรวงการคลังเตรียมเปิดให้กลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปตรวจสอบสิทธิ์และยื่นอุทธรณ์ได้ภายในเดือนธันวาคม 2567 เพื่อเตรียมพร้อมโอนเงินให้ทันก่อนช่วงตรุษจีนปี 2568 หรือภายในเดือนมกราคม 2568
โครงการในระยะนี้ตั้งเป้ากลุ่มเป้าหมายไว้ที่ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยประมาณว่าจะมีผู้ได้รับสิทธิ์ทั้งหมดราว 4 ล้านคน ใช้งบประมาณ 40,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ผู้ที่มีสิทธิ์ต้องผ่านการลงทะเบียนในระบบตรวจสอบสิทธิ์และพิสูจน์ตัวตน (KYC) และต้องไม่เป็นผู้ที่เคยได้รับเงินในระยะแรก
กลุ่มไร้สมาร์ทโฟนสามารถลงทะเบียนเพิ่มเติม
สำหรับกลุ่มผู้ที่ไม่สามารถลงทะเบียนได้ในระยะแรก หรือกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน รัฐบาลเตรียมเปิดรับลงทะเบียนในเร็ว ๆ นี้ โดยคาดว่าการแจกเงินในกลุ่มนี้จะทำผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน เพื่อให้การใช้จ่ายสะดวกและปลอดภัย
การแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทในระยะแรก ซึ่งเน้นไปที่กลุ่มเปราะบาง เช่น เกษตรกร ถือว่าประสบความสำเร็จ โดยสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมีนัยสำคัญ มีการกระจายเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจและช่วยเสริมสร้างจีดีพีประเทศ โดยกลุ่มเปราะบางกว่า 7 ล้านคนได้รับประโยชน์โดยตรง
จากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจนี้ กระทรวงการคลังคาดว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 ของปี 2567 จะเติบโตต่อเนื่อง โดยทั้งปีอาจเติบโตได้ถึง 2.8% ขณะที่ปี 2568 คาดการณ์ว่าจะเติบโตสูงถึง 3% หรือมากกว่า ทั้งนี้ยังต้องรอดูผลกระทบจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของรัฐบาลในปีหน้า
การเดินหน้าโครงการเงินดิจิทัลระยะที่ 3 จะเริ่มในช่วงเมษายนถึงมิถุนายน 2568 หลังจากระบบดิจิทัลได้รับการพัฒนาความปลอดภัยยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ประชาชนและผู้ใช้สิทธิ์ในระยะยาว
ภาพจาก: AFP
ที่มาข้อมูล : -