
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับภาครัฐและเอกชน ถึงแผนบริหารจัดการผลไม้ปี 2568 โดยคาดว่า ปริมาณผลผลิตผลไม้ 6.73ล้านตัน เพิ่มขึ้น 0.858 ล้านตัน หรือ คิดเป็นร้อยละ 15 โดยเฉพาะ ทุเรียน คาดปริมาณผลผลิต จะออกมา 1.76 ล้านตัน มะม่วง 1.3 ล้านตัน
โดยออก 7 มาตรการหลักในการบริหารจัดการผลไม้ปี 2568 ประกอบด้วย
1.มาตรการสร้างความเชื่อมั่นผลผลิต โดยเร่งตรวจรับรองมาตรฐาน GAP ตั้งศูนย์ “Set Zero” เพื่อสร้างความมั่นใจในคุณภาพผลไม้ไทย พร้อมตั้ง War room ผลักดันการส่งออก และตั้งชุดเฉพาะกิจเจรจากับจีน
2.มาตรการส่งเสริมตลาดในประเทศ เชื่อมโยงตลาดล่วงหน้า และกระจายสินค้านอกแหล่งผลิต สนับสนุนค่าบริหารจัดการผลไม้ รณรงค์บริโภคผลไม้และส่งเสริม GI (สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์) โหลดผลไม้ขึ้นเครื่องฟรี 20 กก. และจัด “บุฟเฟ่ต์ทุเรียน” เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว

สรุปข่าว
3.มาตรการส่งเสริม การแปรรูปและปรับพื้นที่เกษตรให้เหมาะสม โดยเฉพาะผลไม้ที่อยู่ในช่วงกระจุกตัวสูง และมีการสนับสนุนการปลูกพืชสวนแทนพืชไร่
4.มาตรการส่งเสริมตลาดต่างประเทศ จัดมหกรรมค้าชายแดนและจับคู่ธุรกิจ ส่งเสริมการขายในต่างประเทศและร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติ
5.มาตรการยกระดับสินค้าผลไม้ไทย ทำประชาสัมพันธ์เชิงรุก และใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) เจรจาผ่อนปรนมาตรการทางการค้ากับประเทศคู่ค้า
6.มาตรการแก้ไขอุปสรรคและอำนวยความสะดวกการค้า ผ่อนปรนการเคลื่อนย้ายแรงงาน และสนับสนุนการคัดแยก-ขนย้าย
7.มาตรการกฎหมาย กำหนดให้แสดงราคารับซื้อ ณ จุดรับซื้อทุกวัน เวลา 08.00 น. เข้มงวดการป้องกันและปราบปรามการฉวยโอกาสทางการค้า
โดยตั้งเป้าหมาย ระบายผลไม้ 950,000 ตัน เพื่อรักษาเสถียรภาพด้านราคา
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ เร่งส่งเสริมการส่งออกผ่าน 8 แผนงาน 32 กิจกรรม โดยตั้งเป้าสร้างมูลค่าการค้าไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ผ่านกิจกรรมจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ส่งออกไทย 96 บริษัท กับผู้นำเข้า 63 บริษัท จาก 19 ประเทศ คิดเป็นมูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท เร่งขยายตลาดบนแพลตฟอร์มออนไลน์ผ่าน TopThai Store ในกว่า 10 แพลตฟอร์มทั่วเอเชีย และในงานแสดงสินค้าอาหาร THAIFEX-ANUGA ASIA 2025 ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งรัฐบาลพร้อมเดินหน้าผลักดันให้ปี 2568 เป็น ปีทองของเกษตรกรให้ผลไม้ไทยขายได้ราคาดีทั้งในและต่างประเทศ